อาจารย์รินลดา ยอมรับปมหวยทิพย์ กลางโหนกระแส ลีน่าจัง โฟนอินวุ่น รอเพชรพันปีแถลงเคลียร์

อ.รินลดา

อาจารย์รินลดา โหนกระแสวันนี้ สุดวุ่น หวยทิพย์ 24 ล้าน ไม่จบง่าย ณวัฒน์ เตรียมตัวฟ้อง ลีน่าจัง สัมภาษณ์ชี้แจงกันจนโอละพ่อ อาจารย์รินลดา หมอดูรับผิดมีการจัดฉาก วอน เพชรพันปี ออกมาพูดความจริง

ตามกันต่อกับคดีมหากาพย์ลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 ทิพย์ จัดฉากถูกรางวัล 24 ล้านบาทกับกรณีล่าสุดของดราม่า ลอตเตอรี่ออนไลน์หงษ์ทอง กับ หมอดู รินลดา ชัยหมื่น, โอ๊ต เพชรพันปี เจ้าของร้านเครื่องเพชร PW Gems & Diamond และบิ๊กเอ็ม กฤตฤทธิ์ นักแสดงชายที่เพิ่งถูกช่อง 7 ประกาศปลดฟ้าผ่า

มาวันนี้ในรายการโหนกระแสของ หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย ก็ได้เชิญ อาจารย์รินลดา และผู้เสียหายซึ่งออกมากล่าวอ้างว่าได้ตกเป็นผู้เสียหายเนื่องจากถูกหลอกขายเพชรทองปลอมจากทางร้านเพชรดังกล่าว มาร่วมกันให้ข้อมูล

อ.รินลดา ยอมรับปมหวยทิพย์

อาจารย์รินลดา นักพยากรณ์ กล่าวว่า

จุดเริ่มต้นที่รู้จักคุณเพชรพันปีเพราะว่าได้ไปซื้อนาฬิกาหรูยี่ห้อ ปาเต็กฟิลลิปส์ ในราคา 3 แสนกว่าบาท แต่ว่าพอเอาใบรับรองไปให้ศูนย์เช็ก พบว่านาฬิกา กับใบ Certification ไม่ตรงกัน แต่ทางศูนย์ไม่ได้บอกว่าแท้หรือปลอม ส่วนเรื่องถูกรางวัล 24 ล้านบาท คุณรินลดา เชื่อว่า ทางเพชรพันปีนั้นมีการวางแผนถูกกรางวัล เพราะว่าย้อนไปเมื่อปี 2564 ก็เคยอ้างว่าถูกรางวัลมาแล้วครั้งหนึ่งซึ่งในช่วงเวลานั้นก็มีการให้ทางฝั่งของคุณรินโพสต์ภาพลงเฟซบุ๊กจนถึงมีคนเข้ามาถามคำถามว่าถูกจริงไหม แต่ว่าในเวลานั้นเจ้าตัวก็ชี้แจง ทางร้านเพชรเป็นผู้ที่ถูกรางวัล

กระทั่งล่าสุดที่เกิดเรื่องเมื่อปีที่ผ่านมา เริ่มจากร้านเพชรโพสต์รูปว่าถูกรางวัลที่ 1 อีกรอบ คุณรินจึงเชื่อว่าเขาดวงปังจริงจากยนั้นจึงเป็นคนพาบิ๊กเอ็มไปพบคุณเพชรพันปีจริงเพราะอดีตพระเอกดังมาซื้อสบู่สายมูของเธอล็อตใหญ่ โดยยื่นข้อแม้ว่าจะต้องพาบิ๊กเอ็มมาพบเขา

ส่วนที่อ้างถึงว่าถูกหวย 24 ล้าน ฝั่งคุณโอ๊ตกล่าวว่า เขาซื้อเองจากหงษ์ทอง 4,000 ใบ แล้วถูก 24 ล้าน โดยสัญญาว่าจะให้ทางคุณรินลดา 1 ใบ ให้บิ๊กเอ็มอีก 1 ใบ แต่ว่าสุดท้ายก็ไม่ได้เงิน มีภาพที่ตนหอบกระเป๋าไปรับเงินที่ร้านเพชร ท้ายที่สุดก็หอบกระเป๋าเปล่ากลับบ้าน เพราะว่าเขาบอกให้กลับบ้านก่อน แต่ว่าก็ไม่ได้เงินกลับมา

ยอมรับปมหวยทิพย์

อาจารย์รินลดา กล่าวอีกว่า

ส่วนที่ตนผิดตนยอมรับผิด ตนรับรู้ว่าจะมีการล็อกรางวัลที่ 1 ให้ตนกับบิ๊กเอ็ม แต่ก็ไม่ได้เงินจริงๆส่วนเรื่องที่ว่า รางวัลที่ 1 ทิพย์ เป็นการแต่งเรื่องขึ้นมาหรือไม่ ตนแค่เพียงสงสัยว่าอาจจะเป็นอย่างงั้น เพราะมาย้อนนึกถึงเรื่องราวตั้งแต่รู้จักกับคุณเพชรพันปี มั่นใจว่าเขาอาจกุเรื่องว่าถูกสลากกินแบ่งมาตั้งแต่ปี 2564 เพื่อหลอกตนมาตั้งแต่ต้นแล้วก็ได้

ในตอนที่ อดีตพนักงานของร้านเพชร โทรเข้ามาในรายการ เผยในมุมของตนว่า เรื่องลอตเตอรี่ 24 ล้านบาทที่อ้างถึงว่าคุณเพชรพันปีถูกรางวัลเป็นการจัดฉากเตี๊ยมกันกับฝั่งของหงษ์ทองก่อนที่จะหวยจะออก ผู้ที่ทราบเรื่องรางวัลที่หนึ่งทิพย์นี้ ประกอบด้วย หงษ์ทอง, คุณเพชรพันปี, อ.รินลดา และ บิ๊กเอ็ม ส่วน ลีน่า จัง อดีตพนักงานกล่าวว่าถูกจ้างมาให้ปั่นกระแส ด่าทอคนนู้น คนนี้

ด้าน ณวัฒน์ อิสรไกรศีล ที่โฟนอินมาจากสหรัฐอเมริกา เพราะต้องการพูดกับ อ.รินลดา ว่า อยากให้ออกมายอมรับความจริง ว่าตนรู้เรื่องรางวัลที่ 1 จัดฉากมาตั้งแต่แรก ไม่ใช่ยอมรับเพียงแค่ว่า รู้แต่ว่าไม่สนับสนุน เพราะพฤติกรรมจากหลักฐานการคุยในแชตสนทนาซึ่งมีการนัดกับคุณเพชรพันปีอย่างเปิดเผย

โหนกระแส

ระหว่างที่ ลีนา จังจรรจา หรือ “ลีน่าจัง” เน็ตไอดอลรุ่นใหญ่ที่ถูกพูดถึงว่ารับเงิน รับจ้างด่าทอมิสแกรนด์ ก็เข้าสายมาชี้แจงเรื่องดังกล่าวว่าไม่เป็นความจริง ส่วนที่กล่าวหาว่าเธอตามด่าอิงฟ้า ยืนยันว่าไม่ได้เกลียดกัน เป็นสไตล์ของเธอที่ต้องการจะปั้นใครให้ดัง จะต้องด่าทอส่วนที่รับเงิน 1.5 แสน เป็นการรับงานในฐานะอินฟลูเอนเซอร์ ไปไลฟ์โปรโมตร้านเพียงแค่นั้น

ทั้งนี้ทั้งนั้นในรายการ กรรชัย ได้แจ้งว่า ทีมงานพยายามติดต่อไปหา คุณโอ๊ต เพชรพันปี โดยต่อสายไปแล้ว แต่ทางเจ้าตัวไม่สะดวกที่จะเข้าสาย โดยแจ้งกลับมาว่าจะขอออกมาให้ข่าวทีเดียวเลย

ทั้งนี้ในรายการโหรกะแสของกรรชัยวันนี้จะไขข้อข้องใจปมหวย ทิพย์ 24 ล้านบาทแล้ว ฝั่งผู้เสียหายซึ่งเป็นลูกค้าของทางร้านเพชรพันปี ก็ได้นำหลักฐานต่างๆมาร้องเอาผิดพร้อมทั้งถามหาข้อชี้แจงจากทางร้านเพชรด้วย ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (10 มกราคม66) กลุ่มผู้เสียหายและ ทนายรณณรงค์ แก้วเพช จะไปร้องทุกข์ที่ ปคบ. กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค

 

ลูกชายเพชรพันปี อัดคลิปเปิดเผย หวย 24 ล้านไม่ถูกจริง

ยืนยันทั้งหมดที่พูดเป็นความจริง ลูกชายเพชรพันปีอัดคลิปยันพูดความจริง ทำคดีหวยทิพย์วุ่นกันต่อ ลูกรั้านเพชรย้ำชัดไม่ขอเข้าข้างใคร หวย 24 ล้านผิดจริง ทุกอย่างถูกเซ็ตขึ้นมาเพื่อโปรโมตหวยออนไลน์หงษ์ทอง

ตามกันต่อกับคดีมหากาพย์ รางวัลที่ 1 ทิพย์ ที่เรื่องราวดราม่าลุกลามมาถึงเคส หวย 24 ล้านบาทของทางคุณเพชรพันปี เจ้าของร้านเพชรชื่อดัง อ้างได้แจกหวยรางวัลที่หนึ่งจำนวน 1 ใบ ที่ถูกรางวัลให้กับ บิ๊กเอ็ม กฤตฤทธิ์ แต่ถัดมา บิ๊กเอ็ม ยอมรับว่าไม่ได้ถูกรางวัลดังกล่าวจริง ทำให้ต่อมาต้นสังกัดช่อง 7 ก็ประกาศยุติสัญญากับพระเอกดังจน เพชรพันปี ออกมาไลฟ์ทั้งน้ำตา วอนผู้ใหญ่ช่อง 7 ให้โอกาส บิ๊กเอ็ม เนื่องจากผู้ที่ผิดนั้นคือเธอเองไม่ใช่ดาราหนุ่ม

ถัดมาปมของเรื่องราวก็ยังคงมีประเด็นให้จะต้องกลับมาสนใจกันอีกที เมื่อล่าสุด ลูกชาย โอ๊ต เพชรพันปี เจ้าของร้านเพชรได้ออกมาอีดคลิปชี้แจงถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นกรณีหวย 24 ล้าน ระบุ ไม่ได้ถูกรางวัลจริง

ลีน่าจัง

“ผมมีหลักฐานทุกอย่างว่าถูกหวย 24 ล้าน ไม่เป็นความจริง เป็นการเซตขึ้นมาเพื่อการตลาด โดยมีหงษ์ทองเป็นผู้นำเงินมามอบเป็นส่วนหนึ่งของคอนเทนต์ โดยมีคุณแม่ผมร่วมด้วย และ อ.รินลดา หมอดูพยากรณ์ รู้เห็นเป็นใจมาก่อน แนะนำแม่ผมให้ฝันเป็นเรื่องเป็นราว และเอาบิ๊กเอ็มมาเกี่ยวข้อง จะได้โปรโมตเพื่อการตลาดมากขึ้น ซึ่งคุณรินทำคลิปรับเงิน 6 ล้าน ที่โรงงานคุณแม่ผม โดยจะนำคลิปมายืนยันว่าถูกจริง คุณลีน่าจังก็รู้ว่าไม่ได้ถูกจริง ทำหน้าที่รับจ้างคอยเชียร์ คอยชม คอยด่า เขาจ้างคุณ คุณก็ทำเพื่อเงิน คุณก็พูดไปเรื่อย ส่วนหงษ์ทอง มีหน้าที่ไปฟ้องคุณณวัฒน์ 100 ล้าน” ลูกชายเพชรพันปีกล่าวในไลฟ์

“จากนั้นคุณรินได้มีการนัดแนะหงษ์ทองและมิสแกรนด์ เรื่องบิ๊กเอ็ม แม่ผมไม่เกี่ยวข้อง เรื่องของบิ๊กเอ็ม อ.ริน พามา ถ้าจะหาความบริสุทธ์ให้บิ๊กเอ็ม อ.ริน ต้องรับผิดชอบเองนะครับ เรื่องนี้เป็นความจริงและมีหลักฐานถ้าตอนนี้ทุกคนออกมาสารภาพความจริงทั้งหมดด้วยความเคารพ”

“สุดท้ายนี้ผมยินดีให้ความร่วมมือกับผู้เสียหาย ผมไม่ขออยู่ข้างใครทั้งนั้น ผมอยู่ข้างความจริง แม่ผมมีส่วนผิด ผมก็ต้องพูด ขอร้องผู้ที่รู้เห็นออกมาพูดความจริงด้วยครับ เรื่องนี้ทำให้มีบางคนขุดคุ้ยเรื่องของครอบครัวคุณพ่อผม คนรอบข้างผม และตัวผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ ผมเสียใจมากที่เกิดเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น ในฐานะลูกผมยอมรับไม่ได้เช่นกัน ผมขอยืนยันว่า 24 ล้าน ไม่ถูกจริงครับ ผมขอยืนยันว่าทั้งหมดที่ผมพูดเป็นความจริงครับ” ลูกชายเพชรพันปี ระบุ

แฟนไม่ปลื้ม! หลังผู้จัดติดโปสเตอร์ภาพ BLACKPINK ที่สนามศุภฯ อาย เก่า-เชย

BLACKPINK

แฟนคลับไม่ปลื้ม หลังผู้จัดติดโปสเตอร์ภาพของ 4 สาว วง BLACKPINK ที่สนามศุภชลาศัย ถึงขั้นบอกอาย อีกทั้งเก่า ทั้งเชย ไม่ทราบต้องแต่งตัวแบบไหนไปดี เมื่อวันที่ (4 เดือนมกราคม) สนามกีฬาแห่งชาติ (สนามศุภชลาศัย) ได้ติดโปสเตอร์ขนาดใหญ่ของวง BLACK PINK
ซึ่งเป็นรูปสมาชิกอย่าง ‘เจนนี่- ลิซ่า-โรเซ่- จีซู’ ต้อนรับคอนเสิร์ต ‘BLACKPINK WORLD TOUR BORN PINK BANGKOK’ ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 7-8 มกราคม 2566

หลังมีภาพปล่อยออกมาก็ถูกแฟน ๆ วิจารณ์สนั่นไปทั่วโซเชียล

ถึงสภาพสถานที่จัดงานซึ่งไม่ตรงกันกับป้ายของสาว ๆ เป็นอย่างมาก เนื่องจากสถานที่ค่อนข้างจะเก่าแล้วก็ทรุดโทรม ข้อเท็จจริงแล้วเรื่องสถานที่จัดคอนเสิร์ต ถูกแฟน ๆ ต่อว่ามาตั้งแต่เผยสถานที่และก็ผังจัดงาน เพราะคนไม่ใช่น้อยมองว่า สนามกีฬาแห่งชาติ (สนามศุภชลาศัย) ไม่เหมาะที่จะจัดคอนเสิร์ตของ BLACK PINK แต่ด้วยเหตุผลหลาย ๆ อย่าง ก็ทำให้ต้องจำใจยอมรับชะตากรรมไป
เมื่อมีภาพของสถานที่จัดงานแล้วก็การตระเตรียมตกแต่งถูกปล่อยออกมา ก็เสมือนยิ่งย้ำเตือนให้แฟนคลับรู้สึกไม่สบอารมณ์อีกรอบนั่นเอง คนไม่ใช่น้อยล้อเลียนว่าวินเทจกระทั่งไม่รู้จักจะแต่งตัวไปดูการแสดงดนตรีอย่างไรดี บางคนกล่าวว่า
“นี่คือสถานที่จัดคอนเสิร์ตของวงระดับโลกที่มีเมมเบอร์ อย่างลิซ่าเป็นเจ้าของบ้าน มีโอกาสจะใช้สื่อฟรีจากงานนี้โปรโมตประเทศเป็น soft power อย่างที่รบ.ประกาศว่าจะทำ แล้วดูสภาพ ใครไม่อาย ชั้นอาย”

ผู้จัดติดโปสเตอร์ภาพของ 4 สาว วง BLACKPINK

หลาย ๆ คนนำภาพไปล้อเลียนทำเป็นสีขาว-ดำ
บอกว่าให้อารมณ์อย่างกับยุค 70s – 80s บางคนบอกว่าไม่เคยรู้สึกว่าสนามศุภชลาศัยจะเก่าขนาดนี้ จนกระทั่งห้อยรูปของสาว ๆ
อย่างไรก็ตามทางผู้จัดอาจหยุดกระแสวิพากษ์วิจารณ์นี้ไม่ได้ ด้วยเหตุว่าเป็นสภาพที่เกิดขึ้นจริง รวมถึงแฟน ๆ เองก็เช่นกัน
ที่คงจะต้องก้มยอมรับสถานที่จัดคอนเสิร์ตนี้ต่อไป แนวทางแก้ปัญหาอาจจะมีเพียงหน่วยงานที่เกี่ยวโยงควรเข้ามาปรับแก้และก็ดูแล เพื่อครั้งหลังพวกเราจะได้ไม่ต้องแอบเขินขนาดนี้

4 สาว วง BLACKPINK

“เดียร์น่า” เพื่อนซี้ “ลิซ่า BLACKPINK” กุมขมับ ราคาบัตรคอนเสิร์ต

วอล์มเสียง ยังไม่ทันได้จัดเตรียมร้อง “BLACK PINK IN YOUR AREA” ต้องกุมขมับกับราคาบัตรคอนเสิร์ตที่พึ่งเปิดให้จองใหม่ไปทั่วหน้า
ถึงแม้แต่เพื่อนสนิท “ลิซ่า” อย่างนางเอกสาว “เดียร์น่า ฟลีโป” ยังต้องส่งใจ หลังกดบัตร 4800 บาท มาเอาไว้ในกำมือ
“BLACKPINK” วงเกิร์ลกรุ๊ป โด่งดัง ระดับโลก ประกอบด้วย 4 สาว คือ “ลิซ่า เจนนี่ โรเซ่ รวมทั้ง จีซู” หลังจากที่ห่างหายไปเกือบจะ 2 ปี กระทั่งชาว บลิ้งค์ คิดถึงเกือบจะใจจะขาด ล่าสุด เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา แบล็กพิงก์ ได้ปล่อยซิงเกิลใหม่ Pink Venom และตามมาติด ๆ ด้วย เพลง Shut down พร้อมอัลบั้มเต็ม “BORN PINK” รวมทั้งได้รับเสียงตอบรับถล่มทลายมากกว่า กับ คอนเสิร์ตเวิลด์ทัวร์ “BLACKPINK WORLD TOUR BORN PINK” บินไกลแจกความบลิงก์ชมพูดำรอบโลกไปแล้ว จัดเตรียมนับถอยหลังถึงคิวของกรุงเทพ ไทยแลนด์

4 สาว BLACKPINK จัดแจงโชว์จัดเต็ม BLACK PINK BORN PINK WORLD TOUR BANGKOK ในวันที่ 7-8 มกราคม2566 ณ สนามกีฬาแห่งชาติ (สนามศุภชลาศัย) เรียกเสียงกรี๊ดให้ชาว Blinks ได้ถูกใจพอเหมาะ แต่กระแสวิพากษ์วิจารณ์ก็มาพอเท่ากับเสียงกรี๊ดเหมือนกัน ตั้งแต่การเปิดรอบขายบัตรเพิ่ม พร้อมเปิดโซนใหม่ ที่คนไม่ใช่น้อยถึงกับต้องมองดูแล้วดูอีก “สงสัยว่า หืม เกิดอะไรขึ้น” รวมถึงนางเอกสาว คนรู้จักมักคุ้นของ ลิซ่า

วง BLACKPINK ที่สนามศุภชลาศัย
คอนเสิร์ต BLACKPINK BORN PINK BANGKOK เช็คตารางโชว์-แผนผังงานที่นี่

นับถอยหลังอีกไม่กี่วัน สาวกบลิ๊งค์ BLINK จะได้ชมคอนเสิร์ต “BLACKPINK WORLD TOUR BORN PINK BANGKOK” ของ 4 สาว จีซู เจนนี่ โรเซ่ รวมทั้งลิซ่า กันแล้ว
โดยคอนเสิร์ตแบล็กพิงค์ จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 7-8 มกราคม 2566 ณ สนามกีฬาแห่งชาติ หรือ สนามศุภชลาศัย

ตารางเวลาโชว์ คอนเสิร์ต BLACKPINK BORN PINK BANGKOK

10.00 น. เปิดทางเข้าประตู 1-3
12.00 น. เปิดจุดตรวจความปลอดภัยที่ 3 (ฝั่งจุฬาซอย 12) และ เปิดบูธจำหน่ายของที่ระลึก จุดที่ 1 (หน้าสนามศุภชลาศัย) และ จุดที่ 2 (ในสนามฝึกซ้อม) สำหรับผู้ถือบัตรวีไอพีแพคเกจ
13.00 น. เปิดบูธจำหน่ายของที่ระลึก บริเวณสนามเทพหัสดิน
14.00 น. เปิดรันคิวสำหรับผู้ถือบัตรวีไอพีแพคเกจ (เรียงลำดับคิวตามเลขที่ปรากฏบนหน้าบัตรเข้าชมการแสดง และแยกโซนวีไอพี 1 และ วีไอพี 2)
15.30 – 15.50 น. เปิดประตูการแสดงสำหรับผู้ถือบัตรวีไอพีแพคเกจ
16.00 น. เริ่มการแสดง SOUNDCHECK
16.00 น. เปิดจุดตรวจความปลอดภัย สำหรับผู้ถือบัตรทั่วไป

1.จุดตรวจความปลอดภัยที่ 1 (ในสนามฝึกซ้อม) สำหรับบัตรชมการแสดง โซน B และ โซน W
2.จุดตรวจความปลอดภัยที่ 2 (หน้าสนามจินดารักษ์) สำหรับบัตรชมการแสดง โซน A1 โซน A2 และ โซน N
3.จุดตรวจความปลอดภัยที่ 3 (ฝั่งจุฬาซอย 12) สำหรับบัตรชมการแสดง โซน E

16.30 น. เปิดประตูการแสดงสำหรับผู้ถือบัตรทั่วไป
19.00 น. เริ่มการแสดง
19.00 น. เปิดทางเข้าประตู 3 เพื่อจำหน่ายของที่ระลึก สำหรับบุคคลทั่วไป บริเวณสนามเทพหัสดิน

ส่วนข้าวของต้องห้าม หรือ กฎข้อบังคับในการชมคอนเสิร์ต BLACK PINK BORN PINK BANGKOK มีดังต่อแต่นี้ไป

ข้อควรจะรู้ ในคอนเสิร์ต BLACK PINK BORN PINK BANGKOK

ลูกค้าสามารถรับบัตรที่ระลึก (บัตรแข็ง) ได้ที่จุดตรวจความปลอดภัยก่อนเข้าชมการแสดง
การใช้จ่ายภายในงาน สามารถชำระเงินสดหรือสแกนคิวอาร์โคดกับร้านค้า อย่างไรก็ตาม โปรดกดเงินสดติดตัว ในกรณีที่เกิดปัญหาสัญญาณอินเตอร์เน็ตติดขัด
กำหนดการและเวลาอาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า เพื่อความคล่องตัว กรุณาศึกษาแผนผังบริเวณงาน กฎระเบียบรวมทั้งสิ่งของต้องห้ามล่วงหน้า

ผู้จัดติดโปสเตอร์ภาพ

การเดินทางมาชมคอนเสิร์ต BLACKPINK BORN PINK BANGKOK

แนะนำให้ใช้รถสาธารณะหรือบริการของรถไฟฟ้า BTS สถานีสนามกีฬาแห่งชาติ ทางออก 2 และเตรียมซื้อบัตรรถไฟฟ้า BTS ขากลับไว้ล่วงหน้า
กรณีมีผู้ใช้บริการหนาแน่น สามารถเดินไปใช้บริการที่สถานีสยามได้ ก่อนเวลา 24.00 น.
ส่วนผู้ใช้รถใช้ถนนบริเวณที่จัดงานคอนเสิร์ต กรุณาวางแผนการเดินทาง โดยให้เลี่ยงการเดินทางในซอยจุฬาฯ 5/ซอยจุฬาฯ 6/ซอยจุฬาฯ 12/ถนนพระราม 1/ถนนบรรทัดทอง และบริเวณใกล้เคียง ในช่วงเวลา 11.00 – 23.00 น.

เผยที่มาชื่อซีรีส์ ‘The Glory’ ของ นักเขียนบทคิมอึนซุก จากคำถามของลูก สู่การถ่ายทอดเรื่องราวเหยื่อการใช้ความรุนแรงในโรงเรียน

The Glory

อีกไม่นานเกินรอก็จะได้รับชมซีรีส์ส่งท้ายปีอย่าง The Glory กันแล้ว เนื่องจากซีรีส์เรื่องนี้ไม่เพียงแค่จะก่อให้ผู้ชมตื่นเต้นไปกับไลน์อัปนักแสดงคุณภาพที่ขนทัพมาอย่างแน่นอย่างเดียวเท่านั้น แต่พล็อตเรื่องที่กำลังจะถูกถ่ายทอดก็น่าสนใจรวมทั้งน่าติดตามเป็นอย่างมากเหมือนกัน ซึ่งล่าสุดทางด้านของ นักเขียนบทคิมอึนซุก ก็ได้มีโอกาสออกมาเปิดเผยถึงที่มาแล้วก็แรงบันดาลใจที่ทำให้สร้างสรรค์ซีรีส์เรื่องดังกล่าวนี้ขึ้นมา

ภายในงานแถลงข่าวซีรีส์ The Glory ที่ถูกจัดขึ้นเมื่อวันที่ 20 เดือนธันวาคมที่ผ่านมา

เมื่อถูกถามถึงที่มาแล้วก็แรงบันดาลใจที่ทำให้เขียนบทซีรีส์นี้ขึ้นมา ทางด้านของ นักเขียนบทคิมอึนซุก ก็ได้เล่าถึงเหตุผลนี้อย่างน่าสนใจว่า
“ฉันเป็นแม่ซึ่งมีลูกสาวที่กำลังอยู่ในวัยเรียนและจะขึ้นมัธยมปลายปีที่ 2 ในปีหน้าค่ะ การใช้ความรุนแรงในโรงเรียนจึงเป็นเรื่องที่ค่อนข้างใหม่สำหรับฉัน แต่ก็เป็นเรื่องที่ชวนให้สงสัยเช่นกันค่ะ เพราะในขณะที่เรากำลังคุยเกี่ยวกับประเด็นนี้อยู่ ฉันก็เกิดกังวลขึ้นมาว่าลูกสาวฉันจะถูกวิจารณ์ที่โรงเรียนเพราะฉันหรือเปล่า แต่ลูกสาวตอบกลับมาว่า ไม่หรอก “แม่ไม่ได้ดังขนาดนั้นนะ” นั่นเป็นเรื่องแรกที่ทำให้ฉันช็อก แล้วลูกก็ถามฉันต่อว่า “แม่จะรู้สึกแย่กับอะไรมากกว่ากัน ระหว่างการที่หนูเป็นคนกลั่นแกล้งรังแกคนอื่น หรือการที่หนูโดนรังแกเสียเอง”

ซึ่ง นักเขียนบทคิมอึนซุก ก็ได้เผยอีกว่ากล่าวเนื่องจาก

คำถามข้างต้นนี้เองที่ทำให้ เธอเริ่มเขียนบท ซีรีส์ TheGlory นี้ขึ้นมา โดยคุณได้เล่าต่อว่าต่อขาน “คำถามนั่นเป็นอีกเรื่องที่ ทำให้ฉันตกใจมาก ๆ ค่ะ และในขณะเดียวกันนั้น ความนึกคิดมากมาย ก็พรั่งพรูเข้ามาในหัว จนฉันตัดสินใจ เปิดแล็ปท็อป แล้วเริ่มเขียนบท เรื่องนี้ขึ้นมาค่ะ ฉันครุ่นคิดพิจารณาอยู่นานว่า จะตั้งชื่อเรื่องว่า อะไรดี จึงได้ไป อ่านบทสัมภาษณ์ของเหยื่อ หลายคนที่เป็นเหยื่อความร้ายแรง ในโรงเรียน แล้วก็มารู้ทีหลังว่าเหยื่อ ส่วนใหญ่ไม่ เคยต้องการ คำกล่าวขอโทษ เป็นเงินทอง หรือ สิ่งของใด ๆ ก็ตามแม้แต่ต้องการ คำขอโทษ จาก ใจจริง มากกว่า

ฉันจึงสงสัยว่า คำพูดขอโทษที่จริงใจ เหล่านั้นจะก่อให้ ได้อะไรดีขึ้นมา แต่สุดท้าย ก็ใส่ใจได้ว่า เขาไม่ได้ อยากได้คำพูดขอโทษ แต่มัน ราวกับเป็น การทวงคืน สิ่งที่ พวกเขาได้สูญเสีย ไป อย่าง อย่างเช่น เกียรติและก็ศักดิ์ศรี ในขณะ ที่ โดนทารุณมากกว่า คำขอโทษที่ออกมา จากใจ จะนำ พวกเขากลับ ไปยัง ตอนเวลา ก่อนที่ พวกเขา จะโดนทำร้าย เนื่องจากเหตุนั้น ฉันจึงตัดสินใจ ตั้งชื่อ เรื่องว่า TheGlory ด้วย ความหวัง ที่ต้องการจะ ให้ตัวละคร อย่าง ดงอึน ฮยอนนัม และก็ยอจอง ได้กลับไปสดใส และมีเกียรติเสมือนตอนก่อนที่ พวกเขาจะตกเป็นเหยื่อ ของความร้ายแรง ค่ะ“

เป็นที่รู้ๆกันอยู่ว่า แต่ละบทบาท ที่นักแสดง กำลังจะได้รับในซีรีส์เรื่องนี้ค่อนข้างท้าทายความสามารถ และก็ยังมีเนื้อหามากมายที่ต้องให้ความสำคัญ

The Glory คิมอึนซุก

ซึ่งเมื่อถูกถามถึงเสน่ห์ของแต่ละตัวละคร ทางด้านของ ซงฮเยคโย ตัวละครที่บทบาทสำคัญในซีรีส์เรื่องนี้

ก็ได้เปิดเผยว่า “ดงอึน เป็นตัวละครที่ มีอดีตอันแสนจะเจ็บปวดเพราะว่า ความรุนแรงในโรงเรียน ตั้งแต่เด็ก ๆ ค่ะ
อีกทั้งอาจารย์และตำรวจก็ไม่แม้แต่จะยื่นมือมาปกป้องเธอ เธอจึงตัดสินใจที่จะฆ่าตัวตาย แต่ก็ฉุกคิดได้ว่าทำไมต้องเป็นเธอ ที่ต้องตาย เพราะว่าพวกคนที่ทำร้ายเธอต่างหากที่ต้องได้รับบทลงโทษ
นั่นจึงกลายเป็นจุดเริ่มแรกของการล้างแค้นค่ะ นับเป็นเรื่องยากที่จะสื่ออารมณ์ของดงอึนซึ่งต้องทนทุกข์จากอดีตอันแสนทารุณ แล้วก็ต้องเจอหน้าต่อสู้กับผู้ที่กระทำผิด แต่แทนที่จะแสดงภาพลักษณ์ที่อ่อนแอ ฉันต้องการที่จะให้ผู้ชมแลเห็นด้านที่เข้มแข็งแทนค่ะ ต้องการให้มีความเห็นว่าฉันเป็นดงอึนที่แข็งแกร่งมากกว่าดงอึนในวัยเด็ก ฉันจึงโฟกัสจุดนั้นเป็นพิเศษค่ะ”

ซึ่งทางด้านของ อีโดฮยอน ก็ได้เล่าถึงตัวละครที่เจ้าตัวได้รับด้วยเหมือนกันว่า

“ยอจอง เป็นตัวละครที่ดูด้านนอกนั้นสดใสแต่ภายในมีอะไรซ่อนอยู่ ต้องการที่จะให้ไปติดตามดูกันเองในวันที่ 30 ธ.ค.นี้ครับ”

เหยื่อการใช้ความรุนแรงในโรงเรียน

โดย อีโดฮยอน ก็ได้เล่าถึงการจัดแจงเพื่อถ่ายทอดบทบาทนี้ออกมาให้ได้ดีมากที่สุดว่า
“ตอนอยู่ในกองถ่ายผมแลกเปลี่ยนเปลี่ยนข้อคิดเห็นกับผู้กำกับอยู่ตลอดครับ
ผมใส่ใจว่าการสื่ออารมณ์ของผมนั้นมีผลต่อการเล่าเรื่องในฉากต่อ ๆ ไปด้วย ผมต้องขอขอบคุณผู้กำกับที่มอบโอกาสให้ผมได้ลองถ่ายทอดอารมณ์ในหลากหลายรูปแบบ ผมก็เลยพยายายามจัดแจงและก็ฝึกซ้อมหลายครา ด้วยเหตุว่าจะได้หาแนวทางที่เหมาะสมในการแสดงมากที่สุดครับ”

สุดท้ายนี้ ทางด้านของ ซงฮเยคโย ได้เผยความรู้สึกที่เธอได้มาเป็นส่วนหนึ่งของซีรีส์เรื่องนี้ร่วมไปกับทีมงานและก็นักแสดงทุกท่านว่า

“ฉันเคยได้โอกาสร่วมงานกับนักเขียนบทคิมอึนซุกในผลงานก่อนหน้านี้ค่ะ
ต้องขอบคุณนักเขียนบทที่เชื่อใจและมอบบทตัวละครใน The Glory อีกครั้งค่ะ ฉันมีความสุขมากที่ได้เจอกับตัวละครดงอึน ผลงานเรื่องนี้เป็นผลงานที่ทำให้รู้สึกว่าการที่ฉันได้ทำงานกับคนที่รักช่างเป็นเรื่องที่มีความสุขเหลือเกินค่ะ อีกอย่างฉันเป็นแฟนคลับของผู้กำกับอันกิลโฮและอยากร่วมงานกับเขามานานแล้ว แนวของซีรีส์เรื่องนี้และบทของตัวละครดงอึนเป็นสิ่งที่ท้าทายสำหรับฉัน แต่เป็นเนื่องจากคำแนะนำของผู้กำกับ ฉันเลยหาทางในการแสดงได้ไวขึ้น ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ”

ซีรีส์The Glory

The Glory เป็นซีรีส์แนวดราม่า

นำทีมถ่ายทอดเรื่องราวโดย ซงฮเยคโย อีโดฮยอน อิมจียอน ยอมฮเยรัน พัคซองฮุน แล้วก็ จองซองอิล เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับ มุนดงอึน (รับบทโดย ซงฮเยคโย) นักเรียนสาวมัธยมปลาย ที่เคยเป็นหนึ่งในเหยื่อการใช้กำลังในโรงเรียน และก็มักถูกรังควานจิตใจอย่างเจ็บอยู่บ่อยมาก จนเธอต้องลาออกจากโรงเรียนแห่งนั้น แล้วก็เมื่อระยะเวลาผ่านไป เธอก็ได้ตัดสินใจกลับมาเอาคืนอีกรอบ ด้วยการสมัครไปเป็นครูประจำชั้นของลูก ๆ ที่เคยทำร้ายเธอไว้ภายในวัยเด็ก

“พระองค์ภา” อาการโดยรวมคงที่ แถลงฉบับ 2 ศาลยุติธรรม งดจัดปีใหม่

พระองค์ภา

พว.ออกแถลงการณ์ พระอาการประชวร “พระองค์ภา” ฉบับที่ 2 พระอาการโดยรวมอาจจะที่ในระดับหนึ่ง ด้านนายกฯนำคณะรัฐมนตรีรวมทั้งคู่สมรสจัดพิธีการเจริญพระพุทธมนต์แล้วก็เจริญจิตตภาวนา ถวายพระพรชัยมงคลที่ทำเนียบรัฐบาล ขณะที่พสกนิกรทั่วไทยยังร้อยรวมใจร่วมถวายพระพร สวดมนต์ ตั้งจิตอธิษฐาน
ขอทรงหายจากพระอาการประชวรโดยด่วน ส่วนชาวไทยภูเขาเผ่ากะเหรี่ยงบ้านไล่โว่ อ.สังขละบุรี ร่วมส่งแรงใจตั้งจิตอธิษฐานถวายพระพร “พระองค์ภา”
ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ช่วยเหลือทำให้มีชีวิตและการดำรงชีวิตที่ดีขึ้น ขณะเดียวกันสำนักงานศาลยุติธรรมออกทางการจัด
พิธีบำเพ็ญกุศลอวยพรฯ 3 ข้อ รวมถึงขอความร่วมมือหน่วยงานในสังกัดงดจัดกิจกรรมครึกครื้นปีใหม่

พสกนิกรชาวไทยยังคงเฝ้าติดตามพระอาการประชวรของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหา วัชรราชธิดา ด้วยความปรารถนาดีรวมทั้งด้วยกันถวายพระพร ขอให้พระองค์ทรงหายจากพระอาการประชวรในเร็ววัน แล้วก็เมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ 19 ธ.ค.สำนักพระราชวัง เผยแพร่แถลงการณ์พว. เรื่อง สมเด็จ พระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรง พระประชวร
ฉบับที่ 2 ความว่า ตามที่พว. ได้มีแถลงการณ์ เรื่อง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้า พัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณี สิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงพระประชวรหมดพระสติ ด้วยพระอาการทางพระหทัย และก็ทรงเข้ารับการรักษาพระองค์ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภา กาชาดไทย เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. พ.ศ.2565 ความทราบทั่วถึงแล้วนั้น

แถลงการณ์

คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ

เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราช สาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ได้รายงานว่า พระอาการโดยรวมคงจะที่ในระดับหนึ่ง จังหวะการเต้นของพระหทัยควบคุมได้ด้วย
พระโอสถ ผลการตรวจพระหทัย พบว่าพระหทัยยังบีบตัวได้ไม่ดีเท่าที่ควร ผลการฉีดสีของหลอดเลือดพระหทัยไม่พบความผิดปกติ คณะแพทย์ได้ถวายพระโอสถและก็
เครื่องมือเพื่อช่วยการทำงานของพระหทัย พระปัปผาสะ พระวักกะ แล้วก็ติดตามพระอาการอย่างใกล้ติดต่อไป ก็เลยประกาศมาให้รู้โดยทั่ว
ส่วนที่อาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ฯ ทั้งวันที่ 19 ธ.ค. ซึ่งเป็นวันที่ 4 ที่สภากาชาด ไทยเปิดให้ลงนามถวายพระพรสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ
เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราช สาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา นักข่าวรายงานว่ามีคณะบุคคล หน่วยงาน รวมทั้งองค์กรทั้งยังภาครัฐแล้วก็ เอกชน ตลอดจนพสกนิกรทุกหมู่เหล่าเดินทางมาแสดงความภักดีแล้วก็ลงนามถวายพระพรอย่างเนืองแน่น อาทิเช่น นายโชติวัฒน์ เหลืองประเสริฐ ประธานศาลฎีกา นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ดาโต๊ะ ดร.พัฒนา หลังปูเต๊ะ ปฏิบัติหน้าที่ผู้แทนพระองค์ราชวงศ์กลันตัน มาเลเซีย นายเอ็นโซโคอาเน ซามูเอล มาตาคาเน นายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรเลโซโท
นายฟาน จี๊ ทัญ เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามประจำประเทศไทย คณะศาลเยาวชนและครอบครัว ศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษ คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน สำนักข่าวกรองแห่งชาติ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล นายกสมาคมชาวปักษ์ใต้ นางศุภลักษณ์ อัมพุช ประธานกรรมการบริหารกลุ่มเดอะมอลล์ นายบิณฑ์ บันลือฤทธิ์ มูลนิธิร่วมกตัญญู ฯลฯ

นอกนั้น ร้อยโท ทศพล ไชยโกมินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี
นำชาวบ้านในโครงการมูลนิธิภูบดินทร์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ที่สมเด็จพระเจ้า ลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรม หลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา
ทรงเป็นองค์ประธานกรรมการ ประกอบด้วย คุณครูจากโรงเรียนบ้านกองม่องทะ สาขาบ้านไล่โว่ และสาขาบ้านสาละวะ ตัวแทนจากบ้านไล่โว่และก็บ้านสาละวะ อำเภอสังขละบุรี สวมชุดชาวไทยภูเขาเผ่ากะเหรี่ยง มาร่วมลงนามถวายพระพรพระองค์ภา ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงดูแลช่วยเหลือราษฎรชาวไทยภูเขาจนถึงอยู่ดีกินดี

คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ

นายคมสันต์ พิทักษ์ชาตคีรี กำนันตำบลไล่โว่ กล่าวว่า

สมัยก่อนชุมชนของเราดำเนินชีวิตอยู่ด้วยความยากลำบาก ขาดถนน ป่วย ต้องหามกันออกมารักษา ตั้งแต่พระองค์ทรงเมตตามีโครงการเข้าไปช่วยเหลือ ถนนหนทางก็ดีแล้วขึ้น มีโรงเรียน สถานีอนามัย สามารถรักษาผู้ป่วยในหมู่บ้านได้ ชาวบ้านอยู่ดีแฮปปี้มาก ตลอดเวลา 4 ปี ที่พระองค์ภาเสด็จเข้ามาช่วยเหลือพสกนิกรในพื้นที่ ตนเคยเฝ้าฯรับเสด็จบ่อยครั้ง บอกได้เลยว่าท่านทรงสนิทสนมกับชาวบ้านมาก ทุกหนที่เสด็จฯมาจะถามคำถามว่าสบายดีหรือเปล่า ปกติหนต่อไปไม่เกินเดือน เม.ย.ปี 66 จะเสด็จฯ มาเลิศประชาชนอีก แต่ทรงพระประชวรเสียก่อน ในช่วงเวลานี้ราษฎรชาวไทยภูเขาเผ่ากะเหรี่ยงทุกคนเป็นห่วงท่านแล้วก็ต่างส่งแรงใจตั้งจิตอธิษฐานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ดลใจให้ทรงหายจากพระอาการเจ็บป่วย
ราษฎรทุกคนรอท่านเสด็จฯมายอดเยี่ยมเราดังเดิม

อีกด้านหนึ่งที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข และ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวง สธ. คณะผู้บริหาร ข้าราชการ บุคลากรกระทรวงร่วมพิธีทำบุญทำทานตักบาตรพระสงฆ์ บำเพ็ญบุญ
เพื่อถวายพระพรแด่ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ ให้ทรงหายจากพระอาการประชวร แล้วก็มีพระพลานามัยที่แข็งแรง สมบูรณ์ในเร็ววัน

ส่วนที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยออกมาว่า
ในวันที่ 20 เดือนธันวาคม เวลา 07.30 น. ที่ตึกภักดีบดินทร์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม แล้วก็นางนราพร จันทร์โอชา ภริยานายกฯ เป็นประธานในพิธีเจริญพระพุทธมนต์รวมทั้งเจริญจิตต ภาวนา ถวายพระพรชัยมงคลแด่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวง ราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา โดยมีคณะรัฐมนตรี (ครม.) และก็คู่สมรส เข้าร่วมพิธี

ขณะที่ นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการวัฒนธรรม เผยออกมาว่า

กรมการศาสนาร่วมกับ 5 องค์การทาง ศาสนา จัดพิธีทางศาสนาอวยพรแด่สมเด็จ พระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ ให้หายจากพระอาการประชวร และก็ทรงมีพระพลานามัยแข็งแรง สมบูรณ์โดยด่วน มีศาสนาพุทธ จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์และก็เจริญจิตตภาวนา ศาสนาอิสลาม จัดพิธีดุอาอ์ขอพร ศาสนาคริสต์ จัดพิธีบูชาขอบพระคุณ พิธีการนมัสการพระเจ้า สวดมนตร์ภาวนาและอธิษฐานอวยพร
ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู จัดพิธีสวดมนต์ถวายพระพร และศาสนาซิกข์ จัดพิธีการสวดอัรดาสขอพรจากพระศาสดาและก็ถวายพระพร
ณ ศาสนสถานทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม เป็นต้นไป ส่วนของกระทรวงวัฒนธรรมและก็หน่วยงานในสังกัด ได้จัดโต๊ะหมู่ประดิษฐาน
พระรูปของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ ให้ราษฎรร่วมลงนามให้พร และจัดพิธีการเจริญพระพุทธมนต์มอบให้ พระพรชัยมงคล ก็เลยขอเชื้อเชิญศาสนิกชนทุกศาสนา และทั่วราชอาณาจักร ได้ร้อยรวมใจ ร้อยรวมพลังด้วยกันประกอบพิธี ณ ศาสนสถานของศาสนานั้น ๆ ทั่วราชอาณาจักรโดยพร้อมเพรียงกัน

คณะแพทย์

วันเดียวกัน นายธีรศักดิ์ เงยวิจิตร เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม

ได้ลงนามหนังสือเวียน ศย 005/ว.1176 ถึงหัวหน้าหน่วยงานในสังกัดสำนักงานศาลยุติธรรม เรื่อง แนวทางการจัดพิธีบำเพ็ญ กุศลเพื่อถวายพระพรแด่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้า พัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณี สิริพัชร มหาวัชรราชธิดา และก็แนวทางการจัดกิจกรรมปีใหม่ พุทธศักราช2566 มีใจความสำคัญว่า เพื่อเป็นการแสดงความภักดี รวมทั้งร่วมบำเพ็ญกุศลเพื่อถวายพระพรแด่ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหา วัชรราชธิดา ให้หายจากพระอาการเจ็บไข้โดยด่วน

สำนักงานศาลยุติธรรมขอเชิญชวนหน่วยงานในสังกัดดำเนินการ ดังนี้
1.ร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์และพิธีขอพรตามหลักของแต่ละศาสนากับคณะสงฆ์และผู้นำศาสนาทุกศาสนาในจังหวัด สำหรับหน่วยงานในส่วนภูมิภาคสามารถเข้าร่วมพิธีกับทางจังหวัดได้
2.พิจารณาจัดพิธีทำบุญตักบาตร บริจาคโลหิตหรืออย่างหนึ่งอย่างใดแล้วแต่เห็นสมควร
3.พิจารณาจัดพิธีบำเพ็ญสาธารณกุศลเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เช่น ปล่อยปลา หรือปล่อยสัตว์ โดยให้ซื้อปลาหรือสัตว์ที่จะทำการปล่อยจากท้องตลาด หรือแหล่งจำหน่ายเพื่อการบริโภคเป็นหลัก ทั้งนี้ การดำเนินการตามข้อ 1-3 ไม่สามารถเบิกจ่ายจากงบประมาณได้ อนึ่ง สำนักงานศาลยุติธรรมขอความร่วมมือหน่วยงานในสังกัด งดจัดกิจกรรมรื่นเริงเนื่องในโอกาสเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ปี 2566 จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและพิจารณาดำเนินการต่อไป

นอกจากนั้น ผู้สื่อข่าวแถลงการณ์ว่า พล.อ.อ.สถิตย์พงษ์ สุขวิมล ราชเลขานุการในพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีหนังสือเลขที่ สำนักพระราชวัง0202.2/22052 ลงวันที่ 16 ธ.ค.2565 เรื่อง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เชิญชวนพระราชกระแสทรงขอบใจ
ถึงนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ แล้วก็ รัฐมนตรีว่าการสาธารณสุข โดยมีใจความสำคัญว่า
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและก็สมเด็จ พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ชวนพระราชกระแสมาแจ้งแก่ท่านว่า ทรงซาบซึ้งพระราชหฤทัยอย่างยิ่งรวมทั้งทรงขอบใจที่คณะแพทย์ พยาบาล รวมทั้งเจ้าหน้าที่ของกระทรวงสาธารณสุขได้ถวายการรักษา สมเด็จ พระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี
กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา อย่างเต็มกำลังความสามารถ ทั้งยังขอให้ทุกคนมีกำลังใจที่จะปฏิบัติหน้าที่ประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนสืบไป

iQIYI (อ้ายฉีอี้) จัดงาน “รวมความสนุกสุดปังตลอดทั้งปี 2022” กับการยืนหนึ่งเป็นแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งชั้นนำของเอเชีย

อ้ายฉีอี้

iQIYI (อ้ายฉีอี้) แพลตฟอร์มวิดีโอออนไลน์ชั้นหนึ่งของทวีปเอเชียได้จัดงาน ฉลองความแข็งแกร่งผู้นำสตรีมมิ่งของทวีปเอเชียด้วยการทำกำไรกว่า 3 ไตรมาส โดย คุณเคลวิน เหยา ประธานภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวมทั้งรองประธานฝ่ายธุรกิจระหว่างประเทศของ iQIYI (อ้ายฉีอี้) ยังเปิดเผยผลการตรวจสอบว่า ในประเทศไทยมีผู้ชมกว่า 90% เต็มใจที่จะจ่ายเงินรับดูซีรีส์รวมทั้งภาพยนตร์ผ่านทางแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง ทั้งกว่า 65% ผู้ชมในประเทศไทยยังเป็นสมาชิกของแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งอย่างน้อย 2 เจ้า ซึ่งนี่นับว่าเป็นสัญญาณของการเติบโตอย่างมั่งคงจะสำหรับแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งในประเทศไทย

iQIYI

ดังนี้คุณผ่านศึก ธงรบ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายรายละเอียด iQIYI (อ้ายฉีอี้) เมืองไทย

เผยว่า “เนื้อหาที่หลากหลาย” “ราคาสมเหตุสมผล” “ความเอ็กซ์คลูซีฟ” รวมทั้ง “UNCUT version”คือเหตุผลหลักที่ผู้บริโภคจะพิจารณาในการจ่ายเงินเพื่อรับดูแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง โดยในประเทศไทยเหตุผลในการพิจารณาจ่ายเงินกว่า 54 % เป็นการที่สามารถรับดูด้วยภาษาที่หลากหลาย กว่า 48.50% ตัดสินใจเนื่องจากมีพากย์ไทยรองรับ และกว่า 33% ตัดสินใจด้วยเหตุว่า UNCUT version iQIYI (อ้ายฉีอี้) ยืนหนึ่งในการเป็นจุดหมายที่หมายการรับดูคอนเทนต์ UNCUT version ซึ่งในประเทศไทยถือเป็นประเทศที่ผลิตซีรีส์วายออกมาอย่างสม่ำเสมอ แล้วก็ได้รับความนิยมชมชอบดังข้ามเอเชีย อย่าง ซีรีส์ คินน์พอร์ช เดอะ ซีรีส์ ลา ฟอร์เต้ (KinnPorsche The Series La Forte) ที่ได้จัดเวิลด์ทัวร์อีกทั้งในทวีปเอเชีย และก็ทั้งโลก

iQIYI อ้ายฉีอี้

โดย UNCUT version ไม่เพียงแต่ได้รับความชื่นชอบในไทย แต่ 32.80% ของผู้ชมจำนวนมากในภูมิภาคยังตัดสินใจสมัครเป็นสมาชิกเพราะเหตุว่าสามารถรับดู UNCUT version ซึ่งผลที่เกิดจากการสำรวจยังเผยถึงถึงความน่าสนใจของความชื่นชอบซีรีส์วายไทยอีกว่า ผู้ชมชาวสหรัฐอเมริกาชื่นชอบซีรีส์ที่หลากหลายรสชาติอย่าง ซีรีส์ คินน์พอร์ช เดอะ ซีรีส์ ลา ฟอร์เต้ (KinnPorsche The Series La Forte) , มังกรกินใหญ่ (Big Dragon The Series) รวมทั้ง บรรยากาศรัก (Love In The Air) ส่วนผู้ชมชาวประเทศเกาหลีใต้ ถูกใจซีรีส์แนวฟีลกู๊ด อารมณ์ดี อย่าง ซีรีส์ Between Us เชือกป่าน , ฉันนี่แหละ นายอาทิตย์ (Even Sun) และ ลุ้นรัก 12% (My Only 12%) นอกจากนั้นความนิยมชมชอบของซีรีส์ไทยยังคงเติบโตอย่างสม่ำเสมอ เพราะว่าจากผลที่ได้รับจากการสำรวจพบว่ากว่า 21.67%
ได้ทำการค้นหาซีรีส์ไทยรวมทั้งเพิ่มเข้าไปใน Watch List ของตน นี่เป็นการตอกย้ำซ้ำเติมว่าซีรีส์ไทยกำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นในระดับสากล
การตรวจเดียวกันยังสังเกตเห็นความสนใจที่มากขึ้นสำหรับเนื้อหาในภาษาทวีปเอเชียอื่น ๆ โดยในช่วงสองปีที่ผ่านมา มีคนรับดูคอนเทนต์ภาษาจีนกว่า 53.67% โดยกว่า 47.67% มองว่าคอนเทนต์ภาษาจีนเป็นตัวเลือกที่จำเป็นในการรับชมในทุก ๆ วัน

ในผลสำรวจยังเปิดเผยว่า
ผู้ชมในประเทศไทยเริ่มมีความสนใจในซีรีส์จีนมากขึ้นอย่างสม่ำเสมอ เกือบจะที่จะเทียบเท่าซีรีส์ประเทศเกาหลี ปี 2022
แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งออนไลน์ไม่เพียงแต่จะแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ แต่ผู้ชมยังคงเต็มใจที่จะจ่ายเงินเพื่อรับดูในระยะยาวอย่างมั่นคง

iQIYIประเทศไทย

โดย 10 ซีรีส์จีนที่มียอดการรับดูมากที่สุดในปี 2022 มีดังต่อไปนี้

1.ของรักของข้า (Love Between Fairy and Devil)
2.ดาราจักรรักลำนำใจ (Love Like The Galaxy)
3.ถึงคิวรัก ยัยบล็อกเกอร์ (Time to Fall in Love)
4.รักในความลับ (Our Secrets)
5.องค์หญิงตัวร้ายกับนายองครักษ์ (My Sassy Princess)
6.รักข้ามสหัสวรรษ (Thousand Years For You)
7.รักนี้ไม่ลืมเลือน (Unforgettable Love)
8.สายตาบอกว่ารัก (Nothing But You)
9.ป่วนรักวิวาห์ว้าวุ่น (New Life Begins)
10.ครึ่งทางรัก (Love is Sweet)

อ้ายฉีอี้ประเทศไทย

ในผลการสำรวจเดียวกัน iQIYI (อ้ายฉีอี้)

ได้รับเลือกจากแฟนคลับต่างประเทศ ให้เป็นสตรีมมิ่งอันดับ 1 ของทวีปเอเชีย ในการรับชมซีรีส์จีน ซีรีส์ไทย และซีรีส์มาเลเซีย ยกระดับเป็นแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งทวีปเอเชียในระดับแนวหน้าของโลกอย่างต่อเนื่อง โดยในการจัดงานครั้งนี้ ได้รับโอกาสพิเศษจากนักแสดงแบบใหม่ไฟแรงจากซีรีส์ไทยเรื่อง เชือกป่าน (Between US) นำแสดงโดย บุ๋น – นพณัฐ กันทะชัย และ เปรม-วรุศ ชวลิตรุจิวงษ์ และ
นักแสดงจากซีรีส์เรื่อง Oh No ! Here Comes Trouble ออริจินัลซีรีส์ จาก iQIYI(อ้ายฉีอี้ )นำแสดงโดย เจิงชินฮัว และ เผิง เชียนโย่ว ซึ่งนักแสดงทั้งสองถือเป็นนักแสดงแบบใหม่ไฟแรง
ที่เริ่มจะมีผลงานเรื่องดังกล่าวพร้อมรับดูในปีหน้านี้ โดย นักแสดงทั้งยัง 4 คน ได้มีโอกาสสัมภาษณ์พูดคุยรวมทั้งเล่นเกมส์กันผ่านระบบออนไลน์
นับว่าเป็นประวัติศาสตร์แห่งการโฆษณาซีรีส์โดยมีสื่อมวลชนให้ความสนใจอย่างแออัดสามารถรับชมซีรีส์เรื่องเชือกป่าน (Between US) ได้แล้ววันนี้
บนแอปพลิเคชัน iQIYI (อ้ายฉีอี้) และ เว็บไซต์ iQ.com และรอร่วมชมซีรีส์เรื่อง Oh No ! Here Comes Trouble พร้อมสตรีมมิ่งปีหน้า 2023 นี้

จิน วง BTS ต้องฝึกอะไรบ้างเมื่อเข้ากรมรับใช้ชาติ

จิน

จิน พี่ใหญ่ของ BTS วงเค-ป็อปที่มีแฟนเพลงทั่วโลกได้เข้ากรมทหารเพื่อรับใช้ชาติตามที่กำหนด นับเป็นสมาชิกคนแรกของวงที่เข้ารับการเกณฑ์ทหาร

จินBTS หรือ คิม ซอกจิน วัย 30 ปีได้โพสต์ภาพถ่ายของตัวเองในทรงผมสั้นเกรียนก่อนที่จะเข้ากรมทหารในวันนี้ (13 ธันวาคม) พร้อมเนื้อความว่า “น่ารักกว่าที่คิดไว้”

การที่ในทางเทคนิค ประเทศเกาหลีใต้ยังอยู่ในภาวะสงครามกับประเทศเกาหลีเหนือ จึงทำให้ชายที่มีร่างกายสมบูรณ์ทุกคนต้องเข้าประจำการในกองทัพ

จินBTS จะเริ่มการฝึกเป็นเวลา 5 อาทิตย์ที่ค่ายทหารยอนชอน ใกล้กับอณาเขตประเทศเกาหลีเหนือ

หลังจากนี้มีกล่าวว่าเขาได้รับคำสั่งให้ประจำการในหน่วยแนวหน้า ซึ่งเป็นข่าวที่สร้างความห่วงใยแล้วก็กังวลใจให้เหล่าแฟน ๆ นับล้าน

จิน BTS

จิน ต้องฝึกหัดอะไรบ้าง

ที่ค่ายยอนชอน ทหารเกณฑ์จะต้องนอนบนเสื่อที่ปูกับพื้นในห้องที่ทหาร 30 นายพักรวมกัน พวกเขาจะต้องฝึกซ้อมการใช้อาวุธปืน แล้วก็เข้าฝึกหัดการรบในสถานการณ์ต่าง ๆ

ทหารเกณฑ์ภารกิจท้าทายที่สุดที่พวกเขาต้องเผชิญเป็นการถูกจับเข้าห้องรมแก๊ส เพื่อให้ได้เรียนรู้ถึงผลกระทบจากแก๊สน้ำตา แล้วก็ต้องฝึกหัดดึงสลักระเบิดจริง

ยัง ซู-ยอน เด็กหนุ่มวัย 22 ปีที่เพิ่งเสร็จสิ้นการฝึกหัดที่ค่ายยอนชอน
เล่าให้ฟังว่า “ผมตื่นเต้นมากตอนที่ถือลูกระเบิด และต้องช็อกที่ได้รู้ว่ามันมีอานุภาพรุนแรงขนาดไหน”

“มันเป็นการฝึกที่ต้องใช้ความแข็งแกร่งทางร่างกายมาก แต่ทางจิตใจไม่รุนแรงเท่าไร ส่วนครูฝึกทุกคนก็เป็นมิตร” เขากล่าว

หลังฝึกหัดเสร็จ จินจะถูกส่งไปประจำการที่หน่วยแนวหน้าใกล้ชายแดนประเทศเกาหลีเหนือ

ประเทศเกาหลีเหนือแล้วก็ประเทศเกาหลีใต้ถูกแบ่งออกจากกันด้วยเขตปลอดทหาร (Demilitarized Zone หรือ DMZ)
ที่มีขนาดกว้าง 4 กิโลเมตร แล้วก็ยาว ตลอดเส้นแบ่งเขตดินแดน ซึ่งทั้งสองฝั่งมีการติดตั้งรั้วลวดหนามแล้วก็การวางกำลังทหารติดอาวุธหนัก

ตอนที่รับใช้ชาติ ยัง ซู-ยอน ถูกส่งไปปฏิบัติหน้าที่ทหารรักษาการณ์ที่เขตปลอดทหาร ประจำกองพลทหารราบที่ 5
ซึ่งเป็นหนึ่งในหน่วยแนวหน้าที่สุด ในตอนนั้นเขามีหน้าที่รักษาการณ์ทั้งคืน แล้วก็รอสังเกตการณ์ทหารประเทศเกาหลีเหนือที่อยู่ฝั่งตรงข้ามโดยใช้กล้องอินฟราเรด

“ผมเห็นทหารเกาหลีเหนือถูกทำร้ายร่างกายสองสามครั้ง บางครั้งถูกเตะหรือไม่ก็ถูกตบหน้า” ยัง ซู-ยอน เล่าถึงประสบการณ์ในตอนนั้น

“พวกนั้นต้องใช้แรงงานหนัก เพราะไม่มีอุปกรณ์ช่วยเหลือดี ๆ แบบพวกเรา”

ยัง ซู-ยอน บอกว่าการได้มองเห็นชะตากรรมของทหารประเทศเกาหลีเหนือทำให้เขารู้สึกขอบคุณประสบการณ์ที่ตนเองได้รับระหว่างการรับใช้ชาติ
“เมื่อผมได้เห็นว่าพวกเขาต้องทำอะไรบ้าง ผมก็ตระหนักว่า ‘ว้าว พวกเราสบายกว่าเยอะเลย’ ผมรู้สึกเสียใจแทนพวกเขา”

จินพี่ใหญ่ของ BTS

สำหรับจิน เขาจะต้องต่อสู้กับความโหดร้ายของฤดูหนาว

ซึ่งยัง ซู-ยอน ยังจำได้ถึงตอนที่เขาต้องปฏิบัติหน้าที่ในสภาพอากาศ -20 องศาเซลเซียส

“เวลาที่พวกเราออกไปข้างนอก ขนตาจะจับตัวเป็นน้ำแข็ง” เขาเล่า

การที่ยัง ซู-ยอน อาสาไปประจำการเป็นทหารรักษาการณ์ในแนวหน้า ทำให้เขาได้รับสิทธิพิเศษหลายอย่าง ซึ่งรวมทั้งการได้มีเวลาพักนอกฐานปฏิบัติการมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม คาดว่า จินBTS น่าจะถูกส่งไปประจำที่ฐานซึ่งอยู่ห่างจากเขตปลอดทหาร แบบเดียวกับโฮ ซองยัง ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ประจำศูนย์บัญชาการกองทหารที่ 6 ระหว่างปี 2018-2020

ในตอน 6 เดือนแรก โฮ ซองยัง ได้รับมอบหมายให้เฝ้าทางเข้าศูนย์สั่งการการ

“มันยาวนานและน่าเบื่อ ผมไม่ได้ทำอะไรนอกจากจ้องมองท้องฟ้า” โฮ ซองยัง เล่า

เขาบอกว่าหลังหลังจากนั้น

เขาถูกย้ายไปอยู่ทีมส่งกําลังบํารุงทางทหาร ซึ่งเขามีหน้าที่สั่งซื้อเสบียงแล้วก็เครื่องใช้ต่าง ๆ ดังเช่น กระดาษชำระ แล้วก็ถุงเท้า

ข้อบังคับให้ชายประเทศเกาหลีใต้ทุกคนที่ไม่เป็นบุคคลพิการต้องรับการเกณฑ์ทหารนั้น
สร้างความไม่พอใจให้เด็กหนุ่มจำนวนไม่น้อยที่เห็นว่าการเกณฑ์ทหารได้พรากพวกเขาจากการเรียน การทำงาน แล้วก็เพื่อนฝูง

ในตอนหลายเดือนที่ผ่านมา
มีกระแสข่าวลือว่ารัฐบาลบางทีอาจผ่อนผันให้สมาชิกวง BTS ไม่ต้องเข้ากรมรับใช้ชาติ ด้วยเหตุผลที่ว่าพวกเขาได้รับใช้ประเทศชาติแล้ว
โดยการสร้างรายได้เข้าประเทศมูลค่ามหาศาล แล้วก็จะมีประโยชน์มากกว่าที่จะปล่อยให้พวกเขาทำเช่นนี้ต่อไป

BTSจิน

แต่ในเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา สมาชิกวง BTS ประกาศว่าพวกเขาจะเข้ารับการเกณฑ์ทหาร โดยที่ จิน พี่ใหญ่ของวงจะเข้ากรมเป็นคนแรก

แต่ถึงอย่างนั้น ข่าวสารที่ว่าจินจะถูกส่งไปปฏิบัติหน้าที่ในแนวหน้าได้สร้างความแปลกใจให้เหล่าแฟน ๆ บางคน
ที่มีความคิดว่าเขาจะได้รับมอบหมายทำให้ปฏิบัติหน้าที่ที่มีการเสี่ยงน้อยกว่านี้

ในอดีตเคยมีหน่วยพิเศษสำหรับเหล่าคนดัง ซึ่งพวกเขาจะยังคงได้ทำงานบังเทิงต่อไปแล้วก็ได้รับสิทธิพิเศษต่าง ๆ แต่ระบบนี้ถูกยกเลิกไปในปี 2013
เพราะเหตุว่ามีกระแสต้านจากสังคมหลังจากพบว่า คนดังบางคนใช้ระบบนี้ในทางมิชอบ แล้วก็ออกนอกค่ายทหารมากกว่าที่ได้รับอนุญาต

“ถ้าผมบอกว่าไม่รู้สึกว่านี่คือการเสียเวลา ผมคงจะโกหก” ยัง ซู-ยอน กล่าว “ถ้าผมเลือกได้อีกครั้ง ผมคงไม่ทำมัน เพราะผมคงจะได้เรียนรู้อะไรมากกว่านี้ในช่วง 18 เดือนที่อยู่นอกค่ายทหาร”

“คำแนะนำสำหรับจินคือ อดทนกับช่วงเวลารับใช้ชาติของเขา และภาวนาให้มันผ่านไปโดยเร็ว”

ส่วนโฮ ซองยัง บอกว่าประสบการณ์รับใช้ชาติได้ให้บทเรียนที่มีค่าแก่เขา ดังเช่น การได้พบผู้คนจากพื้นเพต่าง ๆ
แล้วก็สิ่งที่เขาอยากแนะนำจินคือ จงสนุกไปกับประสบการณ์นี้

จิน พี่ใหญ่ของ BTS

“ในฐานะศิลปินมีชื่อเสียง เขาอาจไม่มีโอกาสได้พบคนธรรมดามากนัก นี่น่าจะเป็นเรื่องดีสำหรับเขา”

ส่วนในโลกอินเตอร์เน็ตแฟนคลับจำนวนมากส่งคำแนะนำแล้วก็บอกว่าพวกเขาจะคิดถึงจินเพียงใดในตอนที่เข้ารับใช้ชาติ

“โปรดดูแลตัวเอง เอาเสื้อผ้าอุ่น ๆ แล้วก็ยาติดตัวไปด้วย” “ฉันหวังว่าเพื่อนร่วมกรมจะปฏิบัติกับคุณอย่างดี เราจะตั้งตารอวันที่คุณกลับมา”

 

คะแนน เน็ตไอดอล เซ็กซี่ ขอโทษสวมรอยใช้ชื่อรุ่นน้อง ขอเปลี่ยนนามสกุลให้ต่างกัน

คะแนน เน็ตไอดอล

คะแนน เน็ตไอดอล สาวข้ามเพศ ขอโทษสวมรอย ใช้ชื่อรุ่นน้องหญิง อ้างถูกโฉลก ขอเปลี่ยนชื่อสกุลให้แตกต่างกัน

จากกรณี น.ส.กนกญาดา หรือ จอย อายุ 24 ปี พร้อมครอบครัว เดินทางไปพบ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เพื่อขอคำปรึกษาหา ขั้นตอนการฟ้องกับ เน็ตไอดอลสายเซ็กซี่ คนดัง ซึ่งเป็นสาวข้ามเพศ หลังนำบัตรประจำตัวประชาชน และก็ข้อมูลส่วนตัว ไปหาผลประโยชน์ เชิญชวนเล่นพนันออนไลน์ โฆษณาเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ กระทั่งตัวเอง ถูกออกหมายเรียก จากหลายหน่วยงาน

น.ส.กนกญาดา กล่าวว่า ตนรู้จักกับ เน็ตไอดอลรายนี้ ซึ่งเป็นสาวประเภทสอง และก็เป็นเพื่อน รุ่นพี่ในโรงเรียน และต่อมา เขาอยากใช้ชื่อ ที่เป็นชื่อผู้หญิง และก็มีเอกสารใช้ยืนยัน ก็เลยยืมบัตรประจำตัวประชาชนดู ก่อนที่จะใช้โทรศัพท์มือถือ ถ่ายบัตรประจำตัวประชาชนไว้

เน็ตไอดอล

ล่าสุด เมื่อวานนี้ตอนบ่ายที่ผ่านมา “คะแนน” กนกญาดา คะแนน เน็ตไอดอล

ที่ ถูกกล่าวหา ได้เดินทาง ไปร่วมรายการ ถกไม่เถียง เพื่ออธิบาย ถึงเรื่องดังกล่าว โดยมี น.ส.กนกญาดา อายุ 24 ปี หรือ น้องจอย ผู้ที่ออกมา ร้องทุกข์เรื่องดังกล่าว มาร่วมรายการด้วย โดยมี ดร.มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล หรือ ทนายความแก้ว รองประธานคณะกรรมการเผยแพร่ความรู้ทางกฎหมายสภาทนายความ มาร่วมสนทนา ในเรื่องของกฏหมาย

โดย “คะแนน” สารภาพว่า นำชื่อของ จอย ไปใช้เป็นของตัวเองจริง ด้วยเหตุว่าชื่อถูกโฉลก ตัวเองมีความเชื่อ ในทางสายมูมาก ๆ ในสมัยเรียน หมอดูเคยบอก ไว้ ว่าถ้าเกิดใช้ชื่อนี้จะดี แต่ไม่เคยเอาชื่อ ไปใช้ในทางที่ไม่ดี

การันตีไม่เคยเอา ไปทำธุรกรรมอะไรเลย ด้วยเหตุว่าไม่มีบัตรประจำตัวประชาชนจริง ส่วนที่ต้องมาขอรูป บัตรประจำตัวประชาชนอีกรอบนั้น

ก็เนื่องจากเฟซบุ๊กมีปัญหา ต้องใช้บัตรประจำตัวประชาชนสำหรับการยืนยันตัวตน ก็เลยให้รุ่นน้อง ที่สนิทกับจอย ทักมาขอ ซึ่งที่ จอย ติดต่อตนไม่ได้ ก็เนื่องจากเฟซบุ๊กมีปัญหาเช่นเดียวกัน ซึ่งตัวเองยอมรับผิด ว่าไม่ได้บอกจอยว่า จะเอาชื่อไปทำอะไรบ้าง ด้วยเหตุว่าไม่คิดว่า จะมีปัญหาระยะยาว

แต่พอเข้าวงการ ก็ไปเปลี่ยนชื่อของตน แต่มีการปรับชื่อสกุล ให้แตกต่างกันเล็กน้อย ยอมรับผิดว่า ติดกระดุมผิด มาตั้งแต่เม็ดแรก

น.ส.กนกญาดา

มีความคิดว่าตัวเองไม่ได้ ทำอะไรผิดกฏหมาย และไม่ได้หลอกลวงใคร ด้วยเหตุว่าทำแต่งาน เลยมีความคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหา อะไรภายหลังเปลี่ยนชื่อแล้ว

ส่วนคำถามที่ว่า ที่นำชื่อของจอยไปใช้ ด้วยเหตุว่าอยากมีตัวตน เป็นเพศหญิง แต่เป็นด้วยเหตุว่าความเชื่อถือในเรื่อง ของความถูกโฉลก และก็สายมูเท่านั้น

ส่วนเรื่องของเอกสาร เกี่ยวกับการจ่ายภาษี คาดว่าบางทีอาจเป็นด้วยเหตุว่าข้อผิดพลาดในเรื่องเอกสาร อาจจะพิมพ์พลาด ด้วยเหตุว่าชื่อสกุลแตกต่างกันเล็กน้อย ซึ่งเรื่องนี้ คะแนนจะ รับผิดชอบเอง แต่ถ้าเกิดมีเรื่องมีราวอะไรเกิดขึ้นอีก ก็ให้เป็นตาม กฎหมายได้เลย การันตีจะไม่เกิดอะไรแบบนี้อีก

พร้อมทั้งขอโทษทั้งตัวจอย และก็ ครอบครัวของจอย โดยหลังจากนี้ จะต้องพูดคุยกัน เรื่องเกี่ยวกับการเยียวยา และก็ยอมที่จะเปลี่ยนชื่อสกุล ให้ไม่เหมือนกับจอยอีก ส่วนถ้าเกิดมีบุคคลเอาชื่อ ชื่อสกุล และก็รูปภาพของคะแนน ไปสวมรอยอีก ก็จะต้องช่วยเหลือน้องจอย เนื่องจากว่าคะแนนเอาชื่อ ของน้องมาใช้ ซึ่งทางจอยเอง ก็รู้สึกสบายใจขึ้น รวมทั้งยอมจบเรื่องราว แต่โดยดี

แจ้งจับ “เน็ตไอดอลสุดเซ็กซี่” สวมรอยใช้ชื่อ-สกุล รับงานเว็บพนัน ที่แท้เป็นสาวสอง เมื่อวานนี้ที่ผ่านมา น.ส.กนกญาดา อายุ 24 ปี พร้อมครอบครัวเดินทางไปพบ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เพื่อขอคำแนะนำหาขั้นตอนการฟ้องกับ เน็ตไอดอลสายเซ็กซี่คนดัง ซึ่ง เป็นสาวสอง หลังนำบัตรประจำตัวประชาชนและก็ข้อมูลส่วนตัว ไปหาผลประโยชน์ เชิญชวนเล่นพนันออนไลน์ โฆษณาเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ กระทั่งตัวเองถูก ออกหมายเรียก จากหลายหน่วยงาน

กนกญาดา

น.ส.กนกญาดา กล่าวว่า ตนรู้จักกับเน็ตไอดอลรายนี้ ซึ่งเป็นสาวประเภทสอง

และก็เป็น เพื่อนรุ่นพี่ในสถานที่เรียน และก็ถัดมาเขาอยากใช้ชื่อ ที่เป็นชื่อเพศหญิง และก็มีเอกสารใช้รับรอง ก็เลยยืมบัตรประจำตัวประชาชนดู ก่อนที่จะใช้โทรศัพท์ ถ่ายบัตรประจำตัวประชาชนไว้

หลังจากเรียนจบก็ไม่ได้ติดต่อกัน จนกระทั่งเดือน พฤษภาคม 58 เขาทักมาบอก อยู่โรงพยาบาล และก็ขอให้ถ่ายบัตรใหม่ ของเก่าทำหาย แต่ตอนนั้นตนไม่ได้ให้ไป กระทั่งปี 2563 ได้รับหมายเรียกให้ไปพบตำรวจกองปราบ เนื่องจากว่ามีชื่อ ไปโฆษณาเชิญชวนให้เล่นการพนัน ให้ไปชี้แจ้งว่า เป็นคนเดียวกันหรือเปล่า ในเวลานั้นก็มีความคิดว่าน่าจะไม่มีอะไรแล้ว

ถัดมาได้มี เอกสารจากหน่วยงาน ต่าง ๆ ส่งมาให้ไปแจกแจงตลอดมา ล่าสุดตอนวันที่ 22 สิงหาคม 2565 ได้รับหนังสือ จากสำนักงานคณะกรรมควบคุม เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เนื่องจากว่า พี่เขาได้ถ่ายรูปโฆษณาคู่กับ เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์โดยใช้ชื่อเรา รวมถึงอีกหลายหน ที่ผ่านมาเคยได้เห็น มีการเปลี่ยนชื่อเฟซบุ๊ก เป็นชื่อใหม่ หลาย ๆ ชื่อ

หลังมีเรื่องขึ้นก็พยายาม ติดต่อกลับไป แต่ก็ติดต่อไม่ได้ ถูกบล็อกทุกช่องทาง หลังจากนี้ไปจะเดินทาง เข้าแจ้งความฟ้องกับเขา ด้วยเหตุว่าทำให้เราเดือดร้อน และก็เป็นห่วงเรื่องอนาคตถ้าเกิดต้องไปทำงานตรงไหน แล้วมีชื่อตัวเอง กระทำผิดต่าง ๆ ต่อมาทางเพจสายไหม ได้พาผู้เสียหาย เข้าแจ้งความฟ้อง กับเน็ตไอดอลมีชื่อเสียงรายนี้ที่ สถานีตำรวจสายไหม

เปิดตัว Dragonball Super Card Game กำลังจะมาปี 2023

Dragonball Super

Bandai Namco บริษัทเกมชั้นนำของประเทศญี่ปุ่นเจ้าพ่อเกมอนิเมะได้ประกาศเปิดตัว Dragonball Super Card Game แล้วยืนยันอย่างแน่นอนว่าจะพร้อมให้บริการภายในปี 2023 โดยจะมีการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมภายในงาน Dragonball Games Battle Hour 2023 ในเดือนมีนาคมที่ใกล้จะถึงนี้เป็นเวอร์ชั่นสำหรับดิจิทัล เหมือนกับซีรี่ส์ Magic: The Gathering และ Pokemon ที่มีการต่อยอดเป็นเกมการ์ดบนออนไลน์ แน่นอนว่าทาง บันไดก็ได้มาพร้อมกับตัวอย่างของเกมให้รับชมกันด้วย

เปิดตัว Dragonball

ตัวอย่างของ Dragonball Super Card Game

ในตัวอย่างที่ Bandai Namco ปล่อยออกมานั้นแสดงให้เห็นถึงการ์ดและแพ็กต่างๆ ในเกม Dragonball Super Card Game จะมีการ์ดต่างๆ ที่บินอยู่รอบๆ ให้เห็นกันแต่จุดหลักที่โฟกัสกันเป็นพิเศษก็คือ โกคู พระเอกของเราที่มีการปล่อยโมเดลตัวละครออกมาให้เห็นกัน ส่วนรายละเอียดถ้ามีอะไรเพิ่มเติมทางเราจะรีบมาอัปเดตให้ทราบกันอีกที

ประวัติบริษัท Bandai Namco

เกิดจากการควบรวมธุรกิจของสองบริษัทญี่ปุ่นคือ Bandai กับ Namco สำหรับฝั่ง Bandai ได้ก่อตั้งเมื่อปี 1947 โดย นาโอฮารุ ยามาชินะ ทหารผ่านศึกตาพิการที่ทำงานในบริษัทค้าส่งผ้าของพี่เขย ซึ่งทำให้ในช่วงแรกเป็นธุรกิจหนึ่งของบริษัทค้าส่งผ้าเท่านั้น แต่ถัดมา ยามาชินะ ได้ขอแยกมาตั้งบริษัทเองเต็มตัว เพราะเชื่อว่าของเล่นเป็นธุรกิจมีอนาคต ภายหลังจากประเทศญี่ปุ่นฟื้นจากสงครามโลกครั้งที่สอง และคนในประเทศคงเริ่มมีกำลังซื้อพอที่จะซื้อของเล่นให้ลูกให้หลานบ้างแล้ว ในเวลาต่อมาระหว่างยุค 60 และ 70 Bandai ก็เจริญก้าวหน้าขึ้นตามลำดับ ด้วยสินค้าลิขสิทธิ์ของการ์ตูน และภาพยนตร์ชุดทาง
ทีวีของประเทศญี่ปุ่น ได้แก่ Astro Boy และ Kamen Raider มาทั้งในรูปของหุ่นจำลองที่มีหลากหลายขนาดและเข็มขัดแปลงร่าง

เปิดตัว Dragonball Super Card Game

พอถึงยุค 80 บริษัทของเล่นแห่งนี้ก็มาสู่ยุคที่ 2 ภายใต้การบริหารของ มาโกโตะ ลูกชายของผู้ก่อตั้ง และมี Gunpla หุ่นพลาสติกจำลองแบบประกอบได้จาก Gundam การ์ตูนหุ่นยนต์เรื่องใหม่ที่เพิ่งได้เริ่มดังในขณะนั้น เป็นสินค้าขายดี ร่วมกับของเล่นจากบรรดาเหล่าภาพยนตร์ชุดทีวีกลุ่มขบวนการ5สี Bandai รวมกิจการกับ Namco บริษัทที่เด่นเรื่อง Video Game และเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ในตลาดเกมตู้ที่ก่อตั้งในปี 1955 กลายเป็นบริษัทใหม่ภายใต้ชื่อ Bandai Namco ประกอบไปด้วยธุรกิจ 7 กลุ่ม อย่างเช่น ของเล่นและสินค้าสำหรับงานอดิเรก Network Entertainment (Video Game อยู่ในกลุ่มนี้) ฝ่ายผลิตเพลงและสื่อด้านภาพ (Visual) และดูแลลิขสิทธิ์

เปิดตัว Dragonball Super 2023

Dragonball Super

เป็นซีรีส์ชุดใหม่ของดราก้อนบอล โดยคนเขียนเรื่องต้นฉบับอย่างอากิระ โทริยาม่าก็ได้กลับมาเขียนเนื้อเรื่องอีกครั้ง และเป็นอนิเมะชุดที่ 5 ของซีรีส์ ออกอากาศครั้งแรกเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2558 ต่อจากดราก้อนบอล ไค ทางช่องฟูจิทีวีของประเทศญี่ปุ่น โดยในภาคนี้ได้ดำเนินต่อจากดราก้อนบอล Z หลังจากจบศึกบู และได้นำเนื้อหาจากภาพยนตร์ ดราก้อนบอล Z ศึกสงครามเทพเจ้า และ ดราก้อนบอล Z การคืนชีพของฟรีเซอร์ มาเล่าเรื่องกับขยายความใหม่อีกรอบเพื่อเชื่อมโยงเข้าสู่เนื้อหาใหม่ที่จะปรากฏในซีรีส์นี้ คือ ช่วงระหว่าง 10 ปี ก่อนโกคูพบอูบุ (จอมมารบูกลับชาติมาเกิดใหม่)

Dragonball Super 2023

บทเทพทำลายล้างบีรุส

4 ปีหลังจากปราบจอมมารบูสำเร็จ ฮะไคชินบีรุสได้ตื่นขึ้นจากจำศีล ฝันเห็นคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดคือซูเปอร์ไซย่าก๊อดได้ออกตามหา มาดาวไคโอเหนือพบกับ ซุน โกคูที่ฝึกอยู่ จึงสู้กัน โกคูแพ้อย่างง่ายดาย บีรุสเมื่อได้ทราบว่ามีชาวไซย่าบนโลกจึงไปหา คือช่วงงานวันเกิดของบลูม่า บีรุสโกรธมากที่ถูกบูแย่งพุดดิ้งกับไม่พบซูเปอร์ไซย่าก๊อด คิดจะลบโลกทิ้ง โกคูที่ตามมาได้เสนอให้ถามจากเทพเจ้ามังกร มี 2 วิธีคือ เทพแปลงกายเป็นชาวไซย่า หรือ คือให้ชาวไซย่าทั้ง 5 คนที่มีจิตบริสุทธิ์ส่งพลังไปให้คนที่ 6 ที่เป็นศูนย์กลางทำให้เป็นได้ ดังนั้นเบจิต้า,โกฮัง,โกเท็น,ทรังคส์,และบีเดลที่ท้องมีเชื้อสายจากชาวไซย่า ทำพิธีส่งลังให้โกคูกลายเป็นซูเปอร์ไซย่าก๊อดสำเร็จ จึงได้สู้กับบีรุสอีกครั้งโดยมีเงื่อนไขว่า ถ้าโกคูแพ้โลกจะถูกทำลายทันที เวลาของร่างก็อดก็หมดลง โกคูจึงแพ้ แต่บีรุสเปลี่ยนใจไม่ทำลายโลกกับเรื่องยุติลง แต่บีรุสกับวิสก็กลับมาแวะเวียนในฐานะแขกตลอด ซึ่งโกคูกับเบจิต้าไปขอวิสเทวดาคนสนิทของบีรุส พาไปฝึกฝนที่ดาวของบีรุส ให้แข็งแกร่งขึ้น

Dragon Ball Super 2023

บทฟรีเซอร์คืนชีพ

1 ปีถัดมา กองทัพฟรีเซอร์ใกล้ที่จะล่มสลาย โซเบคือผู้นำ หาดาวนาเม็กดวงใหม่ไม่พบ จึงได้พาทาโกมะไปโลกเพื่อรวบรวมดราก้อนบอลขอพรคืนชีพฟรีเซอร์ได้สำเร็จ แต่ว่าร่างนั้นเป็นชิ้นส่วนจำนวนมากทั้งสองจึงรวบรวบพาไปรักษา พอฟรีเซอร์คืนชีพหายดี ก็กลับมานำอีกครั้ง ก็คิดแก้แค้นโกคู แต่พอรู้ว่าโกคูเอาชนะจอมมารบู คิดถึงสิ่งที่พ่อพูดก่อนจะตายว่าอย่าไปยุ่งกับจอมมารบูกับฮะไคชินบีรุส จึงฝึก 4 เดือน เพื่อเป็นการดึงพลังแฝงทั้งหมดออกมา พอฝึกเสร็จนำทัพไปบุกโลก

กองทัพพ่ายแพ้แก่คุริลิน,โกฮัง,เทนชินฮัง,พิคโกโร่,ผู้เฒ่าเต่า ทางพวกโกคูพอรู้เรื่อง แต่ก็ต้องเสียเวลาไป ทุกคนจึงเร่งพลังถึงขีดสุด จนโกคูจับสัมผัสใช้วิชาเคลื่อนย้ายพาตนกับเบจิต้ามาที่โลกทัน ทั้งสองได้ร่างใหม่ “ซูเปอร์ไซย่าก็อดซูเปอร์ไซย่า หรือ ซูเปอร์ไซย่าบลู” ได้เข้าต่อสู้กับฟรีเซอร์ที่มีร่างใหม่ “โกลเด้นฟรีเซอร์” ทางโกคูประมาทถูกโซเบทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ เบจิต้าจึงสู้ต่อแทนโดยไม่ลังเล ฟรีเซอร์สู้ติดต่อกันที่ไม่ชินกับร่างโกลเด้นเสียท่าให้กับเบจิต้า จึงได้ฉวยโอกาสทำลายโลกทิ้ง พวกโกคูเท่านั้นที่รอด วิสก็ช่วยย้อนเวลากลับไป 3 นาที จนโกคูรีบฆ่าฟรีเซอร์ทันที

Dragon Ball Super Card Game กำลังจะมาปี 2023

การออกอากาศของ Dragonball Super

ดราก้อนบอล ซูเปอร์ ออกอากาศทุกวันอาทิตย์เวลา 9:00 น. – 9:30 น. ทางช่องฟูจิทีวีของประเทศญี่ปุ่น ฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2558 ต่อจากดราก้อนบอล ไค บทจอมมารบู ในไทย ได้ฉายทางช่อง TNT Thailand (Toonami) ออกอากาศในรูปแบบซีซัน จำนวนตอนในซีซันแบ่งตามเวอร์ชันภาษาอังกฤษของ Toonami Asia

  • ซีซันที่ 1 (ตอนที่ 1-13) ออกอากาศ วันที่ 7 พฤษภาคม 2560 ทุกวันอาทิตย์ เวลา 9:30 – 10:00 น.
  • ซีซันที่ 2 (ตอนที่ 14-27) ออกอากาศ วันที่ 6 สิงหาคม 2560 ทุกวันอาทิตย์ แต่ในเดือนกันยายน เปลี่ยนวันออกอากาศเป็นวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 9:30 – 10:00 น. ออกอากาศถึงตอนที่ 26
    * ตอนที่ 27 ไม่มีกำหนดออกอากาศในประเทศไทย *
  • ซีซันที่ 3 เป็นต้นไป : ไม่มีกำหนดออกอากาศ

TNT
TNT Thailand ยุติการออกอากาศตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2561 เป็นต้นไป

จำนวนตอนของแต่ละซีซัน อ้างอิงตามเวอร์ชันภาษาอังกฤษทางช่อง Toonami Asia
พากย์เสียงต้นฉบับภาษาอังกฤษโดย Bang Zoom! Entertainment
พากย์ไทยโดย TNT Thailand (Toonami) – ทีมพากย์ช่อง 9 (บทพูดไทยแปลมาจากบทพูดของ Bang Zoom!)
ลิขสิทธิ์โดย Cartoon Network

เปิดเกณฑ์ “ตัดแต้ม ใบขับขี่” ดูชัดๆ แต่ละข้อหาโดนตัดกี่แต้ม เริ่ม 9 ม.ค.66

ตัดแต้ม ใบขับขี่

ตัดแต้ม ใบขับขี่ ตั้งแต่ 1-4 คะแนน เช็กกันเลย ทำผิดแต่ละข้อหาโดนตัดกี่คะแนน พร้อมแนะนำวิธีคืนคะแนน-เช็กสถานะ ช่องทางจ่ายค่าปรับจราจร

ตัดแต้ม ใบขับขี่

จากในกรณี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้ประชาสัมพันธ์ระบบตัดคะแนนความประพฤติในการขับรถ หรือ ตัดแต้มใบขับขี่ เพื่อเสริมสร้างวินัยจราจร เป้าหมายเพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ซึ่งจะเริ่มบังคับใช้ในวันที่ 9 มกราคม 2566

โดยกำหนดให้ผู้มีใบอนุญาตขับขี่ทุกคนมีคะแนนความประพฤติทั้งหมด 12 คะแนน ไม่ว่าผู้นั้นจะได้รับใบอนุญาตขับขี่กี่ชนิดก็ตาม ถ้าหากทำผิดตามกฎจราจรในข้อหาที่ระบุไว้จะถูกตัดคะแนนตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนด

สำหรับการตัดคะแนนเมื่อทำความผิดที่เป็นปัจจัยในการเกิดอุบัติเหตุ ตาม 20 ฐานความผิด ถูกตัดคะแนนเมื่อทำผิดทันที แบ่งเป็น 4 ระดับ เช่น

เปิดเกณฑ์

แบบที่ 1 “ตัดคะแนนทันทีที่ทำผิด”

ตัด 1 คะแนน

  • ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ
  • ไม่สวมหมวกนิรภัย
  • ไม่รัดเข็มขัดนิรภัย
  • ขับรถเร็วเกินกำหนด
  • ขับรถบนทางเท้า
  • ไม่หยุดให้คนข้ามทางม้าลาย
  • ไม่หลบรถฉุกเฉิน
  • ขับรถโดยประมาท น่าหวาดเสียว
  • ขับรถไม่ติดป้ายทะเบียน หรือเปลี่ยนแปลง ปิดบัง
  • ไม่ติดป้ายภาษี

ตัด 2 คะแนน

  • ขับรถฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร
  • ขับรถย้อนศร
  • ขับรถระหว่างโดนพักใช้ หรือเพิกถอนใบขับขี่

ตัด 3 คะแนน

  • ขับรถในขณะหย่อนความสามารถ
  • ขับรถผิดวิสัยคนขับรถธรรมดา
  • ขับรถชนแล้วหนี

ตัด 4 คะแนน

  • เมาแล้วขับ
  • ขับรถในขณะเสพยาเสพติด
  • แข่งรถในทางโดยไม่ได้รับอนุญาต
  • ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น

ทำผิดตัดแต้ม ใบขับขี่

แบบที่ 2 “ตัดคะแนนเมื่อไม่ชำระค่าปรับตามใบสั่ง” ค้างชำระ 1 ใบสั่ง ตัด 1 คะแนน

  • ฝ่าฝืนเครื่องหมายจราจรในทาง
  • จอดในที่ห้ามจอด
  • ไม่แสดงใบอนุญาตขับขี่ขณะขับรถ
  • ขับรถไม่ชิดซ้าย

ถ้าหากผู้ขับขี่ถูกตัดคะแนนจนเหลือแค่เพียง 0 คะแนน จะถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ หรือห้ามขับรถทุกประเภทเป็นระยะเวลา 90 วัน โดยมีหนังสือแจ้งคำสั่ง ถ้าหากฝ่าฝืนขับรถในขณะถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ถ้าหากถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่เป็นครั้งที่ 3 ภายในระยะเวลา 3 ปี อาจจะถูกสั่งพักใช้ใบขับขี่มากกว่า 90 วัน ถ้าหากถูกสั่งพักใช้ ใบอนุญาตขับขี่ อีกเป็นครั้งที่ 4 จะต้องถูกพิจารณาเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ทันที

สามารถ ตรวจสอบ คะแนนใบสั่ง ได้ที่เว็บไซต์ E-Ticket PTM หรือแอปพลิเคชันขับดี (KHUB DEE) และสามารถ ชำระค่าปรับ ได้ที่แอปพลิเคชันเป๋าตัง

แต่ละข้อหาโดนตัดกี่แต้ม

เรื่องต้องรู้ ก่อนเริ่มใช้ระบบ ตัดแต้ม ใบขับขี่

สำหรับผู้ที่ขับขี่ จะมีคะแนนคนละ 12 คะแนน ถ้าหากถูกตัดจนเหลือ 0 คะแนน จะถูกสั่งพัก ใบอนุญาตขับขี่ 90 วัน ถ้าหากฝ่าฝืนขับขี่ขณะถูกสั่งพักจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นอกจากนี้ ถ้าหากถูกสั่งพักใบอนุญาตขับขี่เป็นครั้งที่ 3 ภายในระยะเวลา 3 ปี อาจจะถูกสั่งพักมากกว่า 90 วัน และถ้าหากถูกสั่งพักเป็นครั้งที่ 4 อาจจะถูกพิจารณาเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ทุกประเภท

เปิดเกณฑ์ตัดแต้ม ใบขับขี่

คะแนนถูกตัด คืนคะแนนได้

ส่วนของการคืนคะแนนจะมี 2 รูปแบบ คือ เมื่อครบ 1 ปีได้คืนอัตโนมัติ เมื่อเหลือน้อยกว่า 6 คะแนน สามารถเข้ารับการอบรมกับกรมการขนส่งทางบกที่จัดปีละ 2 ครั้ง เพื่อเพิ่มคะแนนได้ ในกรณีคะแนนเหลือ 0 จนถูกสั่งพักใบขับขี่ 90 วัน ถ้าหากเข้าร่วมการอบรม จะไดคืน 12 คะแนนทันที เริ่ม 9 ม.ค. 2566 ใช้ระบบตัดแต้มใบขับขี่ เช็กเกณฑ์ถูกหักคะแนน

ตัดแต้ม ใบขับขี่ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ได้เปิดเผยว่า

ระบบตัดคะแนนความประพฤติในการขับรถกำหนดไว้ในระเบียบว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขเกี่ยวกับระบบการบันทึกคะแนนความประพฤติในการขับรถของผู้ได้รับใบอนุญาตขับขี่ พ.ศ.2565 มีผลบังคับใช้ในวันที่ 9 ม.ค. 2566 เป็นมาตรการเสริมในการสร้างวินัยการขับขี่เพิ่มเติมจากการออกใบสั่ง ได้กำหนดให้ผู้มีใบอนุญาตขับขี่ทุกคนมีคะแนนความประพฤติ 12 คะแนน ไม่ว่าผู้นั้นจะได้รับใบอนุญาตขับขี่กี่ชนิดก็ตาม ถ้าหากทำผิดตามกฎจราจรในข้อหาที่ระบุไว้จะถูกตัดคะแนนตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนด ประกอบไปด้วย 1.ตัดคะแนนเมื่อทำความผิดที่เป็นปัจจัยในการเกิดอุบัติเหตุ ตาม 20 ฐานความผิด ถูกตัดคะแนนเมื่อทำผิดทันที แบ่งเป็น 4 ระดับ อาทิ ตัด 1 คะแนนเมื่อทำผิดฐานขับรถเร็วเกินกำหนด ไม่สวมหมวกนิรภัย ไม่รัดเข็มขัดนิรภัย ไม่หยุดให้คนข้ามทางม้าลาย ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ ตัด 2 คะแนน เมื่อฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร ตัด 3 คะแนน เมื่อขับรถชนแล้วหนี ตัด 4 คะแนน เมื่อขับรถขณะเมาสุรา ขับรถในขณะเสพยาเสพติด แข่งรถในทางโดยไม่ได้รับอนุญาต 2.ความผิดที่กฎหมายกำหนดให้ออกใบสั่ง 42 ฐานความผิด จะถูกตัดคะแนนเฉพาะกรณีไม่ชำระค่าปรับตามใบสั่งในเวลาที่กำหนดเท่านั้น อาทิ ฝ่าฝืนเครื่องหมายจราจรในทาง จอดในที่ห้ามจอด ไม่แสดงใบอนุญาตขับขี่ขณะขับรถ วิธีการตัดคะแนนดำเนินการโดยใช้ระบบฐานข้อมูลใบสั่ง PTM ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ทำผิดแต่ละข้อหาโดนตัดกี่แต้ม

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวอีกว่า

ถ้าหากผู้ขับขี่ถูกตัดคะแนนจนเหลือ 0 คะแนน จะถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ หรือห้ามขับรถทุกประเภทเป็นเวลา 90 วัน โดยมีหนังสือแจ้งคำสั่ง ถ้าหากฝ่าฝืนขับรถในขณะถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าหากถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่เป็นครั้งที่ 3 ภายใน 3 ปี อาจจะถูกสั่งพักใช้ใบขับขี่มากกว่า 90 วัน ถ้าหากถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่อีกเป็นครั้งที่ 4 ต้องถูกพิจารณาเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ทันที

“คะแนนที่ถูกตัดไปในแต่ละครั้ง จะได้รับคืนเมื่อครบกำหนด 1 ปี นับแต่วันกระทำผิดครั้งนั้นๆ เว้นแต่เป็นกรณีที่ถูกตัดเหลือ 0 คะแนน จะได้รับคืนเมื่อพ้นกำหนดเวลาการสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่แต่ได้รับเพียง 8 คะแนน หากขอเข้ารับการอบรมกับกรมการขนส่งทางบกเมื่อผ่านการอบรมตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขจะได้รับคืนทั้งหมด 12 คะแนน สามารถตรวจสอบคะแนนใบสั่งได้ที่เว็บไซต์ E-Ticket PTM หรือแอปพลิเคชันขับดี (KHUB DEE) และสามารถชำระค่าปรับได้ที่แอปพลิเคชันเป๋าตัง” พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์กล่าว

Cr. ภาพที่  สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

3 สาวไทยเผยชีวิตในขุมนรก ถูกหลอกให้ค้ากามที่เมืองล็อกกิ่ง หนักสุดถึงขั้นบังคับเสพยา

ค้ากาม

3 สาวไทยเปิดใจ ช่วงชีวิตในขุมนรก ภายหลังจากถูกหลอกไปทำงานที่เมืองล็อกกิ่ง ในเขตปกครองพิเศษพม่า ท้ายที่สุด จะต้องขายบริการ หนักสุดถึงกับขนาดบังคับให้อดข้าว รวมทั้ง เสพยา ด้วยเหตุว่า หลงเชื่อคนในเฟซบุ๊ก

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 29 เดือนพฤศจิกายน 2565 ในรายการ “เปิดปากกับภาคภูมิ” ทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32 ดำเนินรายการโดย นายภาคภูมิ พันธุ์สถิตย์ ได้พูดถึง

กรณี 3 สาวไทย เผยชีวิตในขุมนรก ถูกหลอก-บังคับ-ทรมาน ค้ากาม ที่เมืองล็อกกิ่ง ในเขตปกครองพิเศษของว้าแดง ประเทศเมียนมา ด้วยเหตุว่า หลงเชื่อคนในเฟซบุ๊ก ชวนไปทำงานนางสาวบี

นางสาวบี ผู้เสียหาย อายุ 29 ปี เหยื่อ ค้ากาม เล่าว่า

มีผู้หญิงชื่อน้ำ ซึ่งเป็นเพื่อนในเฟซบุ๊ก ทักแชตมาหา ชวนไปทำงานที่ประเทศพม่า ในตอนแรก ไม่บอกว่างานอะไร บอกเพียงว่ากลับมาไทยแล้ว ภายหลังไปทำมา 3 เดือน ตนเองจึงถามว่า ได้กี่บาท น้ำพูดว่า กลับมาได้ 7 แสนบาท

ตอนนั้น รู้สึกเพียงว่าได้เยอะ ทำไมถึงรีบกลับมา น้ำบอกเพียงกลับมาบวช รวมทั้ง มาซื้อบ้าน

ในขณะ นางสาวเอ อายุ 29 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนกับบี เผยว่า เห็นว่าทำงานเมืองนอกได้เงินดี และ ไม่ใช่เงินพม่า เป็นเงินหยวน จึงตัดสินใจไปทำงานกัน ทั้ง 3 คน ถัดมาในวันที่ 21 กันยายน

น้ำขับขี่รถมารับทั้ง 3 คน ที่ห้องพักใน จังหวัดชลบุรี ก่อนส่งที่สนามบินสุวรรณภูมิ มาลงเครื่องเชียงใหม่ รวมทั้ง จะต้องนอนรอที่โรงแรมเชียงใหม่อีก 1 คืน

รวมทั้ง วันถัดมา ตอนตี 5 มีรถปิคอัพคันสีขาวมารับจากโรงแรม ซึ่งเป็นรถปิคอัพขนแตงโม พาลงไปที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งแถวชายแดน จากนั้น ชาวบ้านก็ไล่ลงรถ

บอกว่า มีทหารมาตรวจ จะต้องใช้การเดินเลาะตีนเขาไป ในเวลานั้น เริ่มรู้สึกแปลกใจ อยากจะชวนกันกลับ ด้วยเหตุว่า มองเห็นระยะทาง และ ไม่โอเค แต่ว่าไม่สามารถกลับได้

เนื่องด้วย ซิมใช้ไม่ได้ ติดต่อใครไม่ได้เลย ในเวลานั้น มีกันอยู่แค่ 3 คน ใช้เวลาเดินทาง 5 คืน 6 วัน

รวมทั้ง ควรมีการเปลี่ยนรถยนต์ที่ใช้เดินทางไปเรื่อยๆ คล้ายการขนแรงงานต่างด้าว จะต้องแฝงตัวคละไปกับพวกพม่า กระทั่งไปถึงเมืองล็อกกิ่ง

คุณปวีณา หงสกุล

คุณปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็ก รวมทั้ง สตรี เผย ถึงเหยื่อค้ากาม ว่า

พื้นที่ดังกล่าว เป็นเขตปกครองพิเศษ ไม่มีใครติดต่อได้ แม้ว่าจะอยู่ในประเทศเมียนมา แต่ว่าอยู่ในตะเข็บชายแดนที่ติดกับจีน

ผู้ที่เข้าไปเที่ยวเป็นชาวจีนทั้งหมด มีทั้งหมดทุกอย่างครบวงจร อีกทั้งกาสิโน ธุรกิจสีเทาอยู่ตรงนั้นหมด แต่ว่าไม่มีทางติดต่อกับไทยได้เลย ไม่มีถนน มีแต่ทางลูกรัง จากไทยเข้าเมียนมา จะต้องลักลอบเข้าไปแค่นั้น เป็นเศรษฐกิจพิเศษเฉพาะคนจีน

นางสาวเอ เล่าต่อว่า ภายหลังจากลงรถที่โรงแรม มีผู้หญิงที่พูดภาษาไทยได้ เรียกตัวเองว่า เจ๊ พาขึ้นไปที่โรงแรม ต่อจากนั้น ให้เพื่อนทั้งสองคน คือ บี รวมทั้ง ซี ไปอาบน้ำแต่งตัว พร้อมกับบอกว่า

จะให้คนมาดูตัว ในเวลานั้น ตัวเองตกใจมาก ด้วยเหตุว่า น้ำเคยบอกไว้ว่า จะให้ทำงานเคทีวี เป็นการทำงานในร้านคาราโอเกะ เจ๊คนดัง กล่าวมานั่งคุยกับตน ถามว่า น้ำบอกไหมค่าใช้จ่ายสำหรับการเดินทางเท่าไร

ตนจึงโชว์รายละเอียดแชตที่คุยกับน้ำให้ดู จากนั้น เจ๊อธิบายว่า จะต้องมีการเซ็นสัญญา 3 เดือน รวมทั้ง ควรมีค่าใช้จ่ายจากการหาร้านลงทำงานให้ รวมทั้ง จะต้องเสียค่าใช้จ่ายสำหรับการเดินทางอีก 90,000 บาท

ในเวลานั้น ตกใจมาก ไม่รู้ว่าค่าอะไร รวมทั้ง เริ่มสงสัยว่า งานที่ทำ ไม่ใช่คาราโอเกะอย่างแน่นอน แถมเจ๊ยังบอกอีกว่า ตนเองไม่ตรงปก อ้วนเกินไป ไม่มีร้านลงให้ จะต้องแยกร้านทำงานกับเพื่อนอีก 2 คน รวมทั้ง ได้มารู้ที่หลังว่า น้ำได้เงินจากเจ๊ไป เป็น 140,000 บาท

ช่วงเวลาที่ นางสาวซี บอกว่า ตนเอง รวมทั้ง พี่สาว ถูกซื้อตัวไปเข้าสังกัดแห่งหนึ่ง ในเวลานั้น ก็ไม่รู้เรื่อง ด้วยเหตุว่า ฟังไม่รู้เรื่อง ได้ยินอีกที คือ ให้ไปทำงานที่ตึก ในตอนแรกๆ ก็ทำงานร้านคาราโอกะทั่วๆไป

นางสาวบี ผู้เสียหาย

แต่ว่าหลังๆก็ให้พวกตนขายบริการ แม้ว่าจะไม่ยินยอม ค้ากาม แต่ว่าเลือกไม่ได้

เนื่องด้วย มีทหารยืนคุม ยืนขู่ทุกๆที่ ทำให้จะต้องยอมทุกๆอย่าง โทรศัพท์มือถือใช้งานได้บ้าง ไม่ได้บ้าง แต่ว่าก็ไม่ถูกยึด จึงทำตัวปกติทุกๆอย่าง

ช่วงเวลาที่ เอ เล่าต่อว่า ตนเอง จะต้องอยู่ที่โรงแรมคนเดียว ภายหลังจากแยกกับเพื่อนทั้งสองคน เจ๊บอกจะหาร้านลงให้ แต่ว่าจะต้องรอ รวมทั้ง ถูกชวนขึ้นไปเล่นห้องข้างบนโรงแรม บอกให้ไปฝึกดูงาน พอขึ้นไป ถูกสั่งให้ดมยา แม้ว่าจะบอกว่า ดมไม่เป็น ก็ส่งน้ำอะไรไม่รู้ มาให้ตนดื่ม ตนจึงขอกลับลงมารอข้างล่าง รวมทั้ง อยู่รออยู่ในห้องนั้นอีก 4 วัน ถึงได้มีข้าวกล่อง มาส่งให้กิน

ในเวลานั้น ตนไม่ไหวแล้ว จึงติดต่อกลับไปพบน้ำ ได้รับคำตอบว่า จะส่งให้ตนเองไปพักอยู่กับบี รวมทั้ง ซี ที่ร้านคาราโอเกะ ก่อนบอกกับตนว่า บี รวมทั้ง ซี ติดหนี้ติดสินอีก 250,000 อีก 1 สัปดาห์ แยกตนเองก็ได้ไปอยู่อีกร้านหนึ่ง ซึ่งจะต้องทำงานขายบริการโดยตรง รวมทั้ง ใช้ชีวิตอย่างนั้นเดือนกว่า จึงได้ตกลงคุยกันกับเพื่อนอีก 2 คนว่า อยู่ไม่ได้แล้ว ทรมาน หนักสุดเป็นไม่ให้ทานข้าว บังคับให้ขายบริการ รวมทั้ง เสพยา

รวมทั้ง ได้ติดต่อขอความช่วยเหลือจากที่บ้านอย่างจริงจัง ภายหลังจากได้คุยกับครอบครัวตลอด ตั้งแต่มาทำงาน แต่ว่าภายหลังจากคุยเสร็จ ก็ลบข้อมูลทิ้งทุกๆอย่าง เนื่องด้วย กลัวจับได้ ด้วยเหตุว่า ในตอนเซ็นสัญญา เคยถูกขู่ไว้ว่า จะทำร้าย จากนั้น ครอบครัวก็เก็บรวบรวมข้อมูลไปขอความช่วยเหลือไปที่มูลนิธิปวีณา

คุณปวีณา หงสกุล เผยว่า พ่อของเหยื่อ ได้เดินทางมามูลนิธิ รวมทั้ง ติดต่อกรมการกงสุล กระทรวงต่างประเทศ ก่อนจะะส่งเรื่องไปสถานทูตไทย ในเมียนมา แต่ว่าเนื่องด้วย เป็นเขตปกครองพิเศษ เข้าไปยากมาก แม้แต่ทหารเมียนมาเอง ก็เข้าออกลำบาก จึงได้ติดต่อกับผู้การทหารม้าที่เชียงราย รวมทั้ง บินไปพบ รวมทั้ง ประชุมกัน เพื่อช่วยเหลือ จากนั้น ก็ส่งหนังสือในนามมูลนิธิ เพื่อติดต่อขอความช่วยเหลือไปที่เมียนมา รวมทั้ง วิดีโอคอล ประชุมกันกับตัวแทนทหารเมียน มาตลอดเวลา

ในขณะที่ ทั้งสามคนรอการช่วยเหลือจากทหารเมียนมา ก็พากันหลบหนีออกมาจากสถานที่สำหรับทำงาน ไปซ่อนตัว ที่ห้องพักแห่งหนึ่ง น้ำได้ส่งข้อความมาต่อว่า รวมทั้ง ทวงเงิน เนื่องด้วย เจ๊ได้ทักไปทวงเงินกับน้ำ รวมทั้ง บอกว่า พวกตนหลบหนีออกมาแล้ว

อีกทั้งยังขู่ว่า ถ้าหากตามเจอ จะส่งทหารมาทำร้าย ถ้าหากเจอที่นี่ ก็จะกระทืบ แต่ว่าถ้าหากเจอที่ไทย ก็จะกระทืบเช่นกัน รวมทั้ง จะทำร้ายผู้ที่มาช่วยเหลือด้วย

ในตอนแรก ทั้งสามก็กลัว ด้วยเหตุว่า ยังอยู่ในพื้นที่เมียนมา แต่ว่าตอนอยู่ไทย ไม่กังวล ด้วยเหตุว่า ปลอดภัยแล้ว ในระหว่างรอช่วยเหลือ ยืนยันว่า ทรมานมาก มาม่าห่อเดียวกินกัน 3 คนทุกคน แต่ว่า ท้ายที่สุดเจ้าหน้าที่ก็ประสานงานจนรับตัวได้

แต่ว่าในระหว่างนั้นก็จะต้องได้รับโทษ เนื่องด้วย ลักลอบเข้าไปในพื้นที่ ติดคุก 3 อาทิตย์ ลักษณะซึ่งคล้ายคุกขี้ไก่ เป็นคุกไม้มีแต่ฝุ่น พันด้วยลวดหนาม แต่ว่า ท้ายที่สุดก็กลับไทยได้อย่างปลอดภัย

ในส่วนของคดี นางสาวปวีณา หงสกุล เผยต่อว่า เรื่องนี้ยังไม่จบ ต่อจากนี้ จะต้องส่งให้หน่วยสอบสวนขยายผลการค้ามนุษย์ต่อไป รวมทั้ง เหลืออีก 2 คน กำลังเดินทางกลับมา ท้ายที่สุดผู้เสียหายทั้งสามฝากถึงผู้ที่กำลังมองหางานว่า มันไม่สวยงามอย่างที่คิดไว้ หากจะไปก็ใช้สตินิดนึง แนะว่าอยู่ที่ไทยดีกว่า ถ้าหากไปแล้วจะต้องอดข้าวอดน้ำ แน่นอนว่าอยู่ที่ไทยดีกว่า

อย่างไรก็ดี สามารถติดตามรายการ “เปิดปากกับภาคภูมิ” พร้อมกันได้ทุกวันจันทร์ ถึง วันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 15.30 น. เป็นต้นไป ได้ทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32.