เกมคู่ระหว่างบราซิล พบ เกาหลีใต้ เมื่อคืนที่ผ่านมา คือเป็นเกมสุดท้ายที่จะใช้งาน 974 สเตเดียม 1 ใน 7 สนามที่ กาตาร์ ผลิตขึ้นสำหรับ ฟุตบอลโลกในศึกฟุตบอลโลก 2022 ก่อนที่สนามแห่งนี้ จะถูกรื้อถอนแล้วก็นำวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ ส่งต่อให้ประเทศที่ต้องใช้อุปกรณ์พวกนั้นถัดไป
สำหรับ 974 สเตเดียม คือสนามกีฬาชั่วคราวแห่งแรก ในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลก ที่สร้างมาจากตู้คอนเทนเนอร์ จำนวน 974 ตู้ เพื่อแสดงให้เห็นถึงประวัติศาสตร์การ ออกเรือของกาตาร์
นอกเหนือจากนี้ยังเป็นการประหยัด ต้นทุน แล้วก็รักษาสิ่งแวดล้อมเนื่องจากว่า 974 สเตเดียม เป็นสนามที่ไม่ติดเครื่องปรับอากาศ โดยจะใช้แข่งขันในช่วงเย็นจนกระทั่งค่ำเท่านั้น ซึ่งตามรายงานที่ผ่านมาบอกว่า กาตาร์ประเมินแล้วว่า จะไม่สร้างสนามใหญ่โต เนื่องจากว่าต้องใช้งบประมาณในการดูแลจำนวนมาก
หลายคนอาจตั้งตารอ ‘การแข่งขันฟุตบอลโลก’ หรือ ‘FIFA World Cup’ ประจำปี 2022 ที่มีกาตาร์เป็นประเทศผู้จัดงาน ซึ่งกาตาร์ถือเป็นประเทศแรกในตะวันออกกลางที่ได้เป็นผู้จัดการแข่งขันฟุตบอลระหว่างประเทศโปรแกรมนี้ อีกหนึ่งความพิเศษที่หลายฝ่ายให้ความสนใจก็คือ ‘สเตเดียม’ ที่สามารถถอดประกอบได้แล้วก็ยังประหยัด พลังงานในการก่อสร้างด้วย
จุดประสงค์ของการออกแบบก็เพื่อลดต้นทุน ลดขยะจากการก่อสร้าง รวมทั้งประหยัด เวลาในการก่อสร้างด้วย มากไปกว่านั้น ทางผู้ออกแบบยัง เปิดเผยว่า การสร้างสเตเดียมแห่งนี้ สามารถลดการใช้น้ำได้มากถึง 40% เมื่อเทียบกับการก่อสร้างสนามกีฬาทั่ว ๆ ไป Stadium 974 ก็เลยกลายเป็นสนามกีฬาที่ทั้งรักษ์สิ่งแวดล้อมแล้วก็ประหยัดพลังงานด้วย
ตู้คอนเทนเนอร์ที่ กาตาร์ ใช้ส่วนใหญ่นั้น
ถูกใช้เพื่อสร้างส่วนต่าง ๆ ภายนอกสนามกีฬา แต่ก็มีบางตู้ที่ประกอบไปด้วยบันได ร้านขายของขนาดเล็ก รวมถึง ห้องสุขา เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่แฟนบอลที่จะเข้าชมการแข่งขัน ส่วนรูปทรง แล้วก็ช่องว่างระหว่างที่นั่งยังช่วยทำให้อากาศถ่ายเทได้ตามธรรมชาติ โดยไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องปรับอากาศ เนื่องจากว่ามีลมจากสมุทรที่อยู่ใกล้ ๆ ช่วยทำให้ความเย็น
สำหรับชื่อของสเตเดียมนั้นมีความหมายแอบแฝงอยู่ จำนวน ‘974’ เป็นรหัสโทรศัพท์ ระหว่างประเทศของ กาตาร์ แล้วก็ยังเป็นจำนวนตู้คอนเทนเนอร์ทั้งหมดที่ใช้ก่อสร้างสถาปัตยกรรมแห่งนี้ โดยในจำนวนนี้ หลายตู้ถูกใช้ เพื่อขนส่งวัสดุก่อสร้างมายังพื้นที่แล้วก็ถูกนำมาใช้งานต่อ นอกจากจากนั้น ตู้คอนเทนเนอร์ ยังเป็นสัญลักษณ์เพื่อแสดงถึง ประวัติศาสตร์การออกเรือแล้วก็มรดกทาง อุตสาหกรรมของกาตาร์อีกด้วย
Stadium 974 คือหนึ่งในสนามกีฬาที่จะใช้จัดการแข่งขัน FIFA World Cup 2022 ที่นี่จะถูกใช้จัดการแข่งขันทั้งหมด 7 นัด ซึ่งรวมทั้งนัดแรกที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2022 ด้วย โดยหลังจากจบการแข่งขันในปี 2022 สนามกีฬาแห่งนี้จะถูกรื้อแล้วก็นำไปประกอบในสถานที่ใหม่ หรืออาจดัดแปลงเป็นสถานที่จัดงานขนาดเล็กสำหรับจุดประสงค์อื่น ๆ
ด้านคณะกรรมการสูงสุดของการแข่งขัน FIFA World Cup Qatar 2022 (SC) บอกว่า Stadium 974 ที่สะดุดตาแห่งนี้จะเป็นสัญลักษณ์แห่งความยืนยงแล้วก็นวัตกรรมที่น่าภูมิใจ แล้วก็ยังหวังว่าโปรเจกต์นี้จะเป็น ‘พิมพ์เขียวด้านนวัตกรรม’ ในการออกแบบสเตเดียมที่ยืนยงมากขึ้นสำหรับจัดกิจกรรมใหญ่ๆในอนาคต
เต็งแชมป์ไม่ไว้หน้า! บราซิล มาตามนัดอัด เกาหลีใต้ ลิ่ว 8 ทีมดวล โครเอเชีย
“เซเลเซา” ผลงานสมราคา เต็งแชมป์ รวมพลังเรียงหน้าทุบ “เกาหลีใต้” 4-1 โดยเกมนี้ เนย์มาร์ คืนสนามซัด 1 ตุงจ่อขยับสถิติทาบ เปเล่ พาทีมลอยลำเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย ดวล โครเอเชีย วันที่ 9 ธ.ค. นี้ ในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบ 16 ทีมสุดท้าย คืนวันจันทร์ที่ผ่านมา
สนาม : สเตเดี้ยม 974
การแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบ 16 ทีมสุดท้ายที่ กาตาร์ ประจำวันจันทร์ที่ 5 ธันวาคม 2565 บราซิล เต็งแชมป์ พบ เกาหลีใต้ ผู้แทนจาก เอเชีย
บราซิล ของเทรนเนอร์ ติเต้ ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายมาได้ด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม จี โดยเกมล่าสุดแพ้ให้กับ แคเมอรูน มา 0-1 ทางด้าน เกาหลีใต้ ของเทรนเนอร์ เปาโล เบนโต้ พลิกล็อคเอาชนะ โปรตุเกส 2-1 ทำให้พวกเขาผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายด้วยการเป็นอันดับ 2 ของกลุ่ม เอช
เปิดฉากครึ่งแรกเพียง 7 นาที บราซิล ทะยานออกนำ 1-0 จากจังหวะขึ้นเกมทางขวา ราฟินญ่า พาแหวกเข้าเขตโทษหักเข้าในหลุดมาเสาไกลถึง วินิซิอุส จูเนียร์ ล่อเป้าแบบไร้ตัวประกบผ่าน คิม ซึง-กิว ตุงตาข่าย
นาทีที่ 11 “เซเลเซา” ขยับหนีเป็น 2-0 จากความผิดพลาดของ จอง วู-ยอง เสียท่าโดน ริชาร์ลิชอน สอดมาฉกบอลกลายเป็นหวดโดนคนเสีย จุดโทษ แล้วก็เป็น เนย์มาร์ ทำหน้าที่สังหารเข้าไปอย่างเยือกเย็น
6 นาทีต่อมา “โสมขาว” ออกหมัดบ้าง ฮวาง ฮี-ชาน เก็บบอลหน้าเขตโทษฝั่งซ้ายโยกเข้าในลองปั่นด้วยขวาระยะร่วม 30 หลาโค้งหวิด เสียบใต้คานติดปลายมือ อลิสซง เบ็คเกอร์ น้อยมาก
ต่อมานาทีที่ 29 บราซิล ยำเพิ่มเป็น 3-0 จากจังหวะประสานงานสุดสวย กาเซมีโร่ ขยับมาเชื่อมบอลหน้ากรอบ 18 หลาเบิ้ลเร็วคืนให้ ริชาร์ลิชอน หลุดกับดักล้ำหน้าแปสวนตัว คิม ซึง-กิว ตุงตาข่ายงามหยด
นาทีที่ 36 ประตูที่ 4-0 มาตามนัดโอกาสนี้เป็น วินิซิอุส จูเนียร์ ตามมาเก็บบอลในเขตโทษฝั่งซ้ายดึงจังหวะยกบอลข้ามมาให้ ลูคัส ปาเกต้า สอดมาชาร์จกระดอนพื้นซุกหน้าต่างเสาไกลไม่พลาด
ช่วงทดเจ็บ “เซเลเซา” เดินเครื่องไม่มีผ่อน ราฟินญ่า เก็บบอลหน้าเขตโทษฝั่งขวายกถึงแม้ว่าจะ ลูคัส ปาเกต้า สอดมาหน้ากรอบ 6 หลาดีดไปตรงตัว คิม ซึง-กิว ตบทิ้งออกมาได้ทัน
นาทีที่ 45+4 ริชาร์ลิชอน หลุดเดี่ยวขึ้นมาจากครึ่งสนามกระชากเข้าเขตโทษฝั่งขวาซัดไปติดเท้า คิม ซึง-กิว เด้งเข้าทาง เนย์มาร์ ซ้ำไม่ทันปลิ้นข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย
หมดครึ่งเวลาแรก บราซิล 4 เกาหลีใต้ 0
เริ่มครึ่งหลัง “โสมขาว” ยังเมาหมัดเสียบอลพื้นที่อันตรายสุดท้ายเป็น ราฟินญ่า พาแตะเข้าเขตโทษฝั่งขวาโยกเข้าซ้ายข้างถนัดแต่ซัดไม่เต็มเบาเข้ามือ คิม ซึง-กิว
นาทีที่ 47 เกาหลีใต้ พลาดโอกาสทองจากบอลยาวทางซ้าย มาร์กินญอส เสียท่าโดน ซน ฮึง-มิน ตัดหน้ามาเก็บก้มตัวปั่นด้วยขวาติดแขน อลิสซง เบ็คเกอร์ ออกมาเร็วเซฟไว้ได้ทัน
ต่อมานาทีที่ 54 “เซเลเซา” หวุดหวิดบวกสกอร์เพิ่ม ราฟินญ่า สอดมารับบอล ในเขตโทษฝั่งขวาตัดเข้าซ้ายดึงได้ช่องแป แหวกบล็อคแนวรับ เกาหลีใต้ ติดเซฟ คิม ซึง-กิว ล้มไปล้วงออกมาเหลือเชื่อ
60 นาทีผ่าน เนย์มาร์ โชว์ลีลาโดนหวดช่วยทีมได้ลูกฟรีคิกระยะอันตรายหน้าเขตโทษฝั่งซ้ายก่อนมีน้ำใจให้ ราฟินญ่า ทำหน้าที่ปั่นไถลบล็อคโค้งหลุดเสาแรกไม่ไกล
2 นาทีต่อมา เนย์มาร์ พยายามปั้นน้องเต็มที่เก็บบอลทางซ้ายตัดเข้าในแทงข้ามมาให้ ราฟินญ่า เก็บในเขตโทษดึงเข้าขวาตะบันสุดแรงยัดเสาแรกก็ยังไม่ผ่าน คิม ซึง-กิว
นาทีที่ 69 จากจังหวะครอสทางซ้ายบอลโค้งเข้าเขตโทษติดหัวแนวรับ บราซิล โขกสกัดไม่ดีกลายเป็นตั้งให้ ฮวาง ฮี-ชาน หวดสวนตูมเดียวติดเซฟ อลิสซง เบ็คเกอร์ ปัดเข้าทาง ซน ฮึง-มิน ตามซ้ำก็ยังติดบล็อค มาร์กินญอส
ต่อมานาทีที่ 76 “โสมขาว” ตีไข่แตก 4-1 จนกระทั่งได้เป็นลูกฟรีคิกทางฝั่งขวาบอลลอยไปติดหัว กาเซมีโร่ โขกสกัดย้อนมาเข้าทาง เพค-ซึงโฮ หวดสวนด้วยซ้ายระยะร่วม 20 หลาไถล ติอาโก้ ซิลวา พุ่งเสียบเสาแรกงามหยด
10 นาทีสุดท้าย เกาหลีใต้ เกือบจะไล่มาอีกลูกจากบอลยาวทิ้งให้ โช กยู-ซอง โฉบเอาชนะแนวรับ หลุดเข้าเขตโทษฝั่งขวาซัดล่อเป้าติดเซฟ อลิสซง เบ็คเกอร์ ก่อนถูกจับ ล้ำหน้า
หลังจากนั้นไม่มีสกอร์เพิ่ม จบเกม บราซิล 4 เกาหลีใต้ 1
รายชื่อนักเตะที่ลงสนาม
บราซิล (4-1-2-3) : อลิสซง เบ็คเกอร์ (เวเวอร์ตัน น.80) – เอแดร์ มิลิเตา (ดานี่ อัลเวส น.63), มาร์กินญอส, ติอาโก้ ซิลวา, ดานิโล (เกลย์สัน เบรเมอร์ น.72) – กาเซมีโร่ – ลูคัส ปาเกต้า, เนย์มาร์ (โรดริโก้ โกเอส น.80) – ราฟินญ่า, ริชาร์ลิชอน, วินิซิอุส จูเนียร์ (กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ น.72)
เกาหลีใต้ (4-2-2) : คิม ซึง-กิว – คิม มุน-ฮวาน, คิม มิน-แจ, คิม จีซู (ฮอง ชุล น.46), อี แจ-ซอง (อี คัง-อิน น.74) – จอง วู-ยอง (ชอน จุน-โฮ น.46), ฮวาง อิน-บอม (เพค-ซึงโฮ น.65), ฮวาง ฮี-ชาน – ซน ฮึง-มิน – โช กยู-ซอง (ฮวาง อุย-โจ น.80)
ผู้ตัดสิน : เคลม็องต์ ตูร์แปง (ฝรั่งเศส)